ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2566 ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม พีมูฟ ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง “พรรคการเมืองต้องสนับสนุนนายกรัฐมนตรีจากฉันทามติประชาชน ร่วมปิดสวิตช์ ส.ว.” โดยออกมาโพสต์ระบุดังนี้

14 พฤษภาคม 2566 นับเป็นวันที่จะถูกจารึกอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของประเทศ โดยประชาชนกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ ได้ออกมาร่วมใช้สิทธิเลือกตั้งทั่วไป ร่วมใจกันเปลี่ยนประเทศไทยด้วยวิถีทางแห่งประชาธิปไตยทางตรงสะท้อนเจตจำนงอันยิ่งใหญ่ที่ต้องการทลายอำนาจเผด็จการที่ตั้งต้นจากการทำรัฐประหารและผูกขาดการเมืองไทยมากว่า 8 ปี เป็นวงจรอุบาทว์ของระบบการเมือง ที่สะท้อนภาพความเป็นอนารยประเทศ ที่กลุ่มผู้มีอำนาจได้ร่วมกันสร้างความเหลื่อมล้ำ ทวีความเดือดร้อน ในขณะที่ก็กอบโกยเอาความมั่งคั่ง เลือดเนื้อ ชีวิต และจิตวิญญาณของประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริงของประเทศอย่างไม่ไยดี

เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า พรรคก้าวไกล คือพรรคการเมืองที่ได้เสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีมากที่สุด ไม่น้อยกว่า 14 ล้านเสียง และมีว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) 152 คน สามารถประสานร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับ 5 พรรคการเมือง จากเสียงประชาชนไม่น้อยกว่า 24 ล้านเสียง ทั้งสามารถรวม ส.ส. 310 เสียง เป็นเสียงข้างมากที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน อย่างไรก็ตามในระบบรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ต้องได้รับเสียงสนับสนุนร่วมในรัฐสภา ไม่น้อยกว่า 376 เสียง จึงจะสามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ซึ่งรวมถึงเสียงของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่แสดงท่าทีสวนทางกับเจตนารมณ์ของประชาชนว่าจะไม่สนับสนุนพรรคการเมืองที่มาจากเสียงข้างมาก โดยไม่แยแสต่อกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมแต่อย่างใด

ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ขอแสดงความยินดีและชื่นชมการแสดงออกของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ที่ยืนยันเจตนารมณ์ต้องการสร้างสรรค์สังคมที่พวกเราต้องการอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียมและสงบสุข ในขณะเดียวกันเราขอประณามท่าทีของฝ่ายอนุรักษ์นิยมผู้รับใช้อำนาจเผด็จการที่ฉุดรั้งประเทศถอยหลัง ไม่เคารพฉันมาทติของมหาชน ไม่กระทำตนให้ถูกต้องตามครรลองระบอบประชาธิปไตย โดยเรามีข้อเรียกร้องไปยัง ส.ว. และพรรคการเมือง ดังนี้

1. สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว) ต้องเคารพเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนโดยการสนับสนุนนายกรัฐมนตรีที่มาจากเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรเป็นนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาล

​2. ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคการเมืองทุกพรรค ต้องแสดงตนสนับสนุนกระบวนการประชาธิปไตย โดยการยกมือสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่มาจากเสียงข้างมากในสภา และร่วมกันปิดสวิตช์ ส.ว. อย่างไม่มีเงื่อนไข อันจะเป็นก้าวแรกสู่การทลายกระบวนการสืบทอดอำนาจของ คสช.

3.เนื่องในวาระครบรอบ 31 ปีเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 พีมูฟเห็นว่า การเมืองไทยขับเคลื่อนไปข้างหน้า สู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสังคมให้เป็นประชาธิปไตยโดยเร่งด่วน เราขอเตือนพรรคการเมือง และ ส.ว. ทั้งหลายว่า อย่าเล่นเกมการเมืองบนผลประโยชน์ของพวกพ้อง โดยไม่เคารพเจตจำนงกับความมุ่งหวังของประชาชน ขอยืนยันว่าเราจะร่วมกันผลักดันให้ได้มาซึ่ง รัฐบาลของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน

​ท้ายที่สุด เราขอยืนยันว่า เสียงของประชาชน คือ ประกาศิตที่ทรงอำนาจที่มีคุณค่ามากกว่าสถาบันหรือกลุ่มคนใดที่ไม่ได้มาจากฉันทามติของประชาชน และหวังว่าทุกคนจะร่วมกันสร้างรัฐสภาให้ทรงเกียรติ อันมีผู้แทนราษฎรที่ทำหน้าที่เพื่อพิทักษ์อำนาจนิติบัญญัติของประชาชนได้อย่างแท้จริงเสียที

ด้วยศรัทธาและเชื่อมั่นในพลังประชาชน ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) 17 พฤษภาคม 2566…

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : @ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม P-move