เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและอารมณ์ดีถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า หากพรรคก้าวไกลไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ พรรค พปชร. จะเป็นตัวแปรสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาล ว่าตนยังอยู่เป็นหัวหน้าพรรคอย่างเดิม ไม่มีอะไร และยังไม่ทราบอะไร

เมื่อถามว่ายังคงเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค พปชร.เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค

เมื่อถามต่อว่า ตอนนี้ดูเหมือนพรรค พปชร. เหมือนตัวแปรสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาล หากอีกฝ่ายจัดตั้งไม่ได้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ทราบ ยังไม่ทราบเลย

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธตอบคำถามว่าทั้ง 2 ลุงคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และพล.อ.ประวิตร ยังมีความพร้อมในการขับเคลื่อนทางการเมืองต่อไปหรือไม่

หลังจากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้ให้โอวาทในโอกาสที่คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย นำคณะนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย และเจ้าหน้าที่เข้าคารวะขอรับพรที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอแสดงความยินดี และชื่นชมความสามารถของนักกีฬาทุกคนที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นตัวแทนนักกีฬาคนพิการในนามทีมชาติไทย ที่จะส่งไปร่วมการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12 ที่กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา ในวันที่ 3-9 มิ.ย. 66 การเล่นและการแข่งขันกีฬานับว่าเป็นปัจจัยหลัก ที่สำคัญอย่างหนึ่ง ในการพัฒนาประชากรภายในประเทศให้มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ อันเป็นวิถีการนำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีและเป็นบุคคลที่มีคุณค่าของประเทศสืบไป การแข่งขันกีฬาในระดับนานาชาติมีประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะเป็นเวทีแห่งการแสดงขีดความสามารถระดับสูงสุดของนักกีฬาแต่ละประเทศนั้น ทั้งนี้ ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหลายจงได้ตระหนัก และนำเอาความรู้จริงใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ให้เกิดผลดีที่สุดในการพัฒนาขีดความสามารถของนักกีฬาทีมชาติไทยและประชาชนภายในประเทศต่อไปด้วย พร้อมทั้งเรียนรู้วิทยาการใหม่ๆ ที่จะทำให้นักกีฬาคนพิการไทย มีขีดความสามารถสูงสุดทัดเทียมกับอารยประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป 

“ผมขอแสดงความชื่นชมนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย ผู้ฝึกสอน ผู้บริหาร ตลอดจนขอขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนทุกภาคส่วน และขอเป็นกำลังใจให้กับคณะนักกีฬาคนพิการทุกคน ขอให้ประสบผลสำเร็จในการชิงชัยครั้งนี้ และนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติของเราต่อไป” พล.อ.ประวิตร กล่าว.