เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 พ.ค. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนการประชุม พล.อ.ธันวาคม ทิพยจันทร์ นายกสมาคมพันธมิตรมวยไทยโลกและนายกสมาคมกีฬามวยไทยเลิศฤทธิ์ นำคณะเด็กและเยาวชนที่ฝึกฝนศิลปวัฒนธรรมและการออกกำลังกายด้วยมวยไทย เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์การแสดงตัวอย่างการสร้างมูลค่าเพิ่มทางศิลปวัฒนธรรมด้วยมวยไทย

เมื่อถามว่า ได้ติดตามชมสถานการณ์การเมืองและผลฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ประเทศอังกฤษ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบคำถาม แต่ได้หันมาทำท่าตั้งการ์ดแบบมวยไทยเลิศฤทธิ์ใส่ผู้สื่อข่าว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ว่า ไม่ตอบถึง 2 ครั้ง

ทั้งนี้ ขณะที่ช่วงเวลาดังกล่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางถึงทำเนียบรัฐบาลด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ดูฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี บ้างหรือไม่ พล.อ.ประวิตร เพียงแต่หันมายิ้ม ก่อนเข้าห้องรับรองสีเหลือง ภายในตึกสันติไมตรี เพื่อพูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้มี ครม. แจ้งลาประชุม 1 คน คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข.

ทางด้าน นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ธันวาคม พร้อมด้วย นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการสมาคม นำคณะเด็ก เยาวชน และครูมวยที่ฝึกฝนศิลปวัฒนธรรมและการออกกำลังกายด้วยมวยไทย เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อประชาสัมพันธ์การแสดงตัวอย่างการสร้างมูลค่าเพิ่มทางศิลปวัฒนธรรมด้วยมวยไทย โดยมี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.การต่างประเทศ พล.อ.อนุพงษ์ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายทรงศักดิ์ทองศรี รมว.มหาดไทย นายนริศ ขำนุรักษ์ รมช.มหาดไทย และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรีเข้าร่วม

โดยนายกรัฐมนตรีชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมและการออกกำลังกายด้วยมวยไทยเลิศฤทธิ์ โดยคณะเด็ก เยาวชน และครูผู้ฝึกสอน ประกอบด้วย ท่าร่ายมวยไทยเลิศฤทธิ์ ได้แก่ ท่าร่ายหมัด 17 ท่า ท่าร่ายศอก 26 ท่า ท่าร่ายรวม หมัดเท้า เข่า ศอก ถีบ 26 ท่า และการสาธิตการร่าย เพื่อนำไปใช้ในการต่อสู้ระดับสูง ได้แก่ การป้องกันเตะ (แทนวิรุฬหกกลับ) การป้องกันหมัด (ตาเถรค้ำฝัก) การป้องกันหมัดด้วยการใช้ศอกตัด (อิเหนาแทงกริช) การป้องกันหมัด (หนูไต่ราว) การใช้นิ้วเพื่อดับนัยน์ตาคู่ต่อสู้ (สวนทวน) การป้องกันเตะด้วยศอก (หักงวงไอยรา) ท่ากลมวยจู่โจม (ฤาษีบดยา) และการต่อสู้กับศัตรูหลายคน (สู้สิบทิศ) 

“นายกรัฐมนตรีขอบคุณและให้กำลังใจผู้เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานที่ร่วมกันพัฒนา สนับสนุน และสานต่อศิลปะการต่อสู้มวยไทย ซึ่งเป็นเทคนิคการต่อสู้ด้วยการใช้อวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกายเป็นอาวุธ ใช้หมัด เท้า เข่า ศอก บูรณาการเป็นศิลปะป้องกันตัว โดยอาจพิจารณาบรรจุเป็นหลักสูตรการเรียนการสอนที่มีมวยไทยเป็นพื้นฐาน ขอให้พัฒนาอย่างต่อเนื่องต่อไป พร้อมแสดงความชื่นชมเด็กๆ และเยาวชนที่ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ขอทุกคนเห็นคุณค่า รัก และร่วมอนุรักษ์สานต่อมวยไทยให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม เพราะมวยไทยเป็นศิลปวัฒนธรรมที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งยังเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่า หากทุกคนช่วยกันและเล็งเห็นความสำคัญร่วมมือร่วมใจอนุรักษ์ สืบสาน พัฒนาต่อยอด มวยไทยจะเป็นหนึ่งใน soft power ที่ช่วยสร้างรายได้ให้ประเทศ และเป็นวัฒนธรรมที่คนไทยภาคภูมิใจ” นายอนุชา กล่าว.