เมื่อวันที่ 5 ก.ค. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหลายราย โดยมีรายชื่อน่าสนใจ คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พ้นจากตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2566 ทั้งนี้ นายพิธา แจ้งสถานะโสด มีการหย่าเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2562 จึงแจ้งบัญชีทรัพย์สินในส่วนของผู้ยื่นส่วนเดียวเท่านั้น โดยแจ้งว่ามีทรัพย์สิน รวม 85,023,720 บาท หนี้สินรวม 20,740,176 บาท

สำหรับทรัพย์สินแบ่งเป็นเงินสด 1,800,000 บาท เงินฝาก 286,045 บาท เงินลงทุน 1,346,698 บาท เงินให้กู้ยืม 15,000,000 บาท ที่ดิน 18,000,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 15,000,000 บาท ยานพาหนะ 2,140,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 19,413,985 บาท และทรัพย์สินอื่น 12,036,990 บาท ส่วนหนี้สินรวม 20,740,176 บาท โดยเป็นเงินเบิกเกินบัญชี 807,414 บาท หนี้สินอื่น 19,932,762 บาท โดยแจ้งว่าเป็นหนี้จากการค้ำประกันกับธนาคารยูโอบี เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2563

โดยทรัพย์สินที่น่าสนใจ คือนายพิธาแจ้งว่ามี เงินลงทุนทั้งหมด 65 รายการ โดยแจ้งเพิ่มเติมว่า รายการที่ 63 และ 64 ซึ่งเป็นเงินลงทุนในบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น มูลค่า 44,100 บาท และเงินลงทุนในบริษัทสหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) จำนวน 830 หุ้น มูลค่า 41 บาท ผู้ยื่นในฐานะผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ได้รับมอบหมายจากทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของนายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ตาย ให้รับโอนหลักทรัพย์หุ้นนี้อันเป็นกองมรดกถือครองไว้แทนทายาทอื่น นอกจากนั้นในส่วนเงินให้กู้ยืมแจ้งว่า ให้นายภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์ น้องชาย กู้ยืม 15,000,000 ล้านบาท ในวันที่ 15 ธ.ค. 2563 ส่วนที่ดินในพื้นที่ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เนื้อที่ 14 ไร่เศษ มูลค่า 18,000,000 บาท นอกจากนั้นยังแจ้งว่ามีห้องชุดในแขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ มูลค่า 15,000,000 บาท

สิทธิและสัมปทานที่น่าสนใจ อาทิ หนังสือวิถีก้าวไกล, หนังสือความรักคือการตกหลุมรักหลายๆ ครั้ง, ไม่สนว่าเก่งมาจากไหน, ด้วยรักจากอนาคต นอกจากนั้นยังแจ้งว่ามีใบจองรถ Tesla มูลค่า 5,000 บาท และสมาชิกราชกรีฑาสโมสร 1,500,000 บาท ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ อาทิ โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง เสื้อ 28 รายการ สูท 16 รายการ เนกไท 76 รายการ รองเท้า 21 รายการ กล้อง 2 รายการ นาฬิกา 10 รายการ และพระเครื่อง 8 รายการ เป็นต้น

นายพิธาแจ้งรายได้ต่อปี แบ่งเป็นเงินเดือน 1,362,720 บาท นอกจากนั้นยังแจ้งว่ามีรายได้จากการขายคอนโดฯ ในปี 2563 จำนวน 13,673,506 บาท ขายรถยนต์ 2 คันในปี 2565 จำนวน 936,000 บาท และขายหนังสือ 431,712 บาท โดมีรายจ่ายต่อปีเป็นค่าอุปโภค 2,400,000 บาท ค่าเบี้ยประกัน 80,973 บาท ค่าท่องเที่ยว 100,000 บาท และเงินบริจาค 5,793,000 บาท โดยมีค่าใช้จ่ายบุตร 561,985 บาท โดยแจ้งว่ารอบปีภาษีที่ผ่านมามีเงินได้พึงประเมินตามประมวลรัษฎากร 1,362,720 บาท

ทั้งนี้เมื่อเทียบกับบัญชีทรัพย์สิน กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2562 ซึ่งครั้งนั้นนายพิธา และคู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งหมด 137,785,190 บาท แบ่งเป็นทรัพย์สินนายพิธา 126,405,519 บาท ทรัพย์สินคู่สมรส 11,180,000 บาท แจ้งว่ามีหนี้สิน 22,954,064 บาท ทั้งนี้เมื่อเทียบกับการยื่นบัญชีทรัพย์สินล่าสุด จะเท่ากับว่าในส่วนของนายพิธา มีทรัพย์สินลดลงกว่า 41,381,799 บาท หนี้สินลดลง 2,213,888 บาท โดยทรัพย์ที่ลดลงในส่วนของโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งเมื่อตรวจสอบพบว่าเป็นห้องชุดที่แจ้งว่า ตั้งอยู่บนที่ดินทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ นอกจากนั้นทรัพย์สินในส่วนของสิทธิและสัมปทานยังลดลงอีกด้วย.