เมื่อวันที่ 14 ก.ค. นายนันทิวัฒน์ สามารถ เลขานุการ รมว.การต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความในหัวข้อ “ฝันสลาย” โดยระบุว่า

การลงมติในรอบแรกเพื่อตำแหน่งนายกฯ ของพิธา ไปไม่ถึงฝั่งฝัน เรือล่มเสียก่อนถึงฝั่ง คะแนนเสียงที่ได้ไม่ถึงเป้าหมายคือ 376 เสียงจาก ส.ว. ที่ว่าได้ติดต่อรับปากรับคำและมั่นใจ หายไปไหนหมด มาแค่ 13 เสียง ขาดไปตั้ง 50

ถ้าเป็นสายมู คงพูดว่า เลือกวันไหนไม่เลือก ดันมาเลือกวันพฤหัสที่ 13 เลข 13 ฝรั่งเขาถือเป็นเลขซวย

ส.ว. ที่ลงเสียงให้ก็ดัน 13 เสียงอีก อะไรมันจะพอดีกันขนาดนั้น วันพฤหัสก็เป็นวันแข็งมาก สงสัยลืมรดน้ำมนต์ อ้อ หรือไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ ไม่เป็นไรเอาใหม่

พิธาประกาศไม่ยอมแพ้ จะสู้อีก มีปัญหา มีคำถามอีกมากมาย จะเอาเสียงมาจากไหนให้พอ

จากพรรคการเมืองอีกซีกได้มั้ย ชวนมาร่วมรัฐบาล ก็จากพรรคที่งดออกเสียง หรือจาก ส.ว. ที่ไม่เข้าประชุม หรืองดออกเสียง ทั้งสองกลุ่มนี้อาจจะห้าสิบห้าสิบอยู่ รอเทียบเชิญ

ท่าทีของพรรคร่วม 8 พรรคจะยังเหมือนเดิมมั้ย จะมีใครขอโอกาสบ้างไหม พรรคอันดับสองอาจแสวงหาเสียงสนับสนุนได้ จะมีใครท้วงติงข้อบังคับการประชุมรัฐสภาหรือไม่

ญัตติที่ตกไปแล้ว คือ ญัตติเสนอชื่อพิธาเป็นนายกฯ เป็นญัตติเก่าที่เสนอซ้ำใหม่ไม่ได้ แปลว่า พิธาอด ไม่ได้รับการเสนอชื่อรอบใหม่

ประการสำคัญ ดาบสองจากศาลรัฐธรรมนูญที่รอการวินิจฉัย หากศาลรับไว้พิจารณาและมีมติตามร้อง คือให้พิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ นั่นเท่ากับว่า พิธาได้กลายเป็นสินค้ามีตำหนิทันที

คดีในศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาไม่ช้า อาจเสร็จสิ้นมีคำวินิจฉัยได้ภายในหนึ่งเดือน

โรคซ้ำกรรมซัดวิบัติเป็น.