เมื่อวันที่ 23 ก.ค. นายภูพิชิต ช่วยบำรุง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมาได้มีพลเมืองดี ได้โพสต์ภาพลงในโชลเชียลของจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมข้อความว่า ได้เข้าไปท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และได้พบกลุ่มมอเตอร์ไซค์วิบาก ประมาณ 10 คัน วิ่งอยู่ในเส้นทางศึกษาธรรมชาติ พร้อมกับตั้งคำถามว่า เวลานี้อุทยานอนุญาตให้กลุ่มรถจักรยานต์ยนต์วิบากเข้ามาขี่ในอุทยานแล้วหรือ

ซึ่งทางอุทยานได้นำภาพดังกล่าวมาตรวจสอบก็พบว่าเป็นพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพจริง โดยใช้เส้นทางถนนป่าไม้ลำลอง ซึ่งไม่ใช่เส้นทางที่ทำไว้สำหรับสัญจร แล้วเข้าไปขับขี่ในเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ซึ่งที่ผ่านมาหากเจ้าหน้าที่พบเจอก็จะเปรียบเทียบปรับทุกครั้ง โดยจะเปรียบเทียบปรับฐานฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าหน้าที่ โทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท อย่างไรก็ตาม มีมาตรฐานของกรมอุทยานฯเอาไว้ว่า หากทำผิดครั้งแรก ให้ปรับไม่เกิน 5,000 บาท แต่หากทำผิดครั้งที่ 2 ในข้อหาเดิม ให้ปรับ 20,000 บาท และหากยังทำอีก ก็ให้ปรับในอัตราโทษสูงสุด คือ 100,000 บาท

โดยภาพดังกล่าวเราได้มีการประกาศตามสื่อโชลเชียลต่างๆให้กลุ่มบุกคคลตามภาพและพรรคพวก ให้มาพบเจ้าหน้าที่ป่าไม้เป็นการด่วน เพื่อดำเนินการตามกฏหมาย ซึ่งทางอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ขอเรียนว่า ทางอุทยาน ไม่ได้มีการอนุญาตให้มีกิจกรรมประเภทรถจักรยานยนต์วิบากในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย แต่อย่างใด โดยที่ผ่านมาหากเจ้าหน้าที่ตรวจพบการลักลอบขับขี่รถจักรยานยนต์วิบากเข้าไปในเขตอุทยาน ซึ่งไม่ใช่เส้นทางสัญจรหลักของคนในชุมชน หากพบมีการกระทำผิดทางอุทยาน จะดำเนินการบังคับใช้กฏหมาย เปรียบเทียบปรับ ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาโดยตลอด

อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย มีเส้นทางลำลองที่สามารถลักลอบเข้าไปในเขตอุทยานฯหลายจุด และได้ดำเนินการติดตั้งป้ายห้ามรถจักรยานยนต์วิบากเข้าไปในเขตอุทยาน โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ก็ยังคงพบการฝ่าฝืน ทั้งนี้หากพี่น้องประชาชนพบเห็นการกระทำดังกล่าว ขอให้แจ้งเบาะแส ภาพหรือคลิป ให้ทางอุทยาน เพื่อจะได้มีการดำเนินการเรียกตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และหากใครสนับสนุนให้มีการดำเนินการกิจกรรมรถจักรยานยนต์วิบากในพื้นที่อุทยานจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นเดียวกัน.