เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 66 รศ.ดร.วาสนา วงศ์สุรวัฒน์ อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ โพสต์แสดงความเห็นทางการเมืองว่า พลีชีพอีกรอบ #อยู่กับสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่ฝัน

คือรัฐธรรมนูญที่ร่างมาให้ 250 สว. เลือกนายกฯ ได้ แล้ว 250 สว. คือประยุทธ์เลือกมากับมือ ก็มีไว้เพื่อให้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะตั้งรัฐบาลที่เป็นฝ่ายค้านเดิมล้วน (376 เสียง) นั่นแหละ วิธีเดียวที่จะชนะตรงนี้ได้คือยุทธศาสตร์ Landslide ซึ่งเพื่อไทยพยายามแล้ว และโดนก้าวไกลด่าทุกเม็ดมาตั้งแต่ช่วงเลือกตั้ง พร้อมวาทกรรม สว. เป็นเสือกระดาษ นั่นแหละ

ด้วยรัฐธรรมนูญอันเดียวกันนี้ก้าวไกลชนะเลือกตั้งที่ 151 เสียง เพื่อไทยไม่ Landslide มาอันดับ 2 ที่ 141 เสียง ถ้าด้อมจะชื่นชอบและยอมรับผลนี้ ก็ต้องยอมรับผลอื่นๆ ตามรัฐธรรมนูญด้วยว่าในเมื่อไม่มีพรรคไหนในฝ่ายค้านเดิมที่ Landslide ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะตั้งรัฐบาลโดยไม่รวมเสียงพรรคฝ่ายค้านเดิมเข้ามาด้วย

สิ่งนี้คือสิ่งที่ทำให้พรรคเพื่อไทย ไม่ต้องการจะชัดเจนแล้วโดนก้าวไกลโจมตีหนักมากตอนเลือกตั้ง คือถ้าไม่ Landslide ก็ไม่มีทางเลือกอื่นเลยนอกจากจับกับพรรครัฐบาลเดิม ซึ่งก้าวไกลไปสะบั้นมิตรเขาซ้ำแล้วซ้ำอีกมาหลายรอบมากแล้ว การที่ท้ายที่สุดแล้วผลมันจะต้องออกมาอย่างเมื่อวาน คือก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน มันก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้อยู่แล้ว

เราพูดมาเสมอและโดนด่ามาทุกครั้งที่พูด และวันนี้ก็จะโดนด่าอีก แต่ก็ยังจะพูดเหมือนเดิม คือถ้าประชาชนจะไม่จับอาวุธเข้าป่าตั้งกองกำลังมารบล้มล้างเผด็จการด้วยสงครามกลางเมืองไปเลย การเกี้ยเซียะก็เป็นสิ่งจำเป็นในกระบวนการประชาธิปไตย เพราะมันจำเป็นต้องมีทางลงให้เผด็จการ ให้คนที่ทำรัฐประหารเชื่อว่าตัวเองจะไม่ติดคุกก่อนถึงจะยอมปล่อยมือ

ในกรณีนี้ทางลงที่ชัดเจนที่สุดคือ รธน. ที่มี สว. 250 เสียงมาตั้งนายกฯ ได้ ท้ายที่สุดแล้ว best case scenario คือมันจะมีรัฐบาลที่มาจากพรรคการเมืองทั้งอดีตฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลรวมกัน แต่ทุกคนมาจากการเลือกตั้งของประชาชน และเป็นจุดเริ่มต้นที่จะนำไปสู่ประชาธิปไตยได้ด้วยการแก้รัฐธรรมนูญต่อไป

ตรงนี้คือจุดที่เผด็จการเดิมและกลุ่มอำนาจเก่ายอมรับได้ และทำให้ประยุทธ์กล้าวางมือจากการเมืองเท่านั้น ถ้ายอมรับไม่ได้ก็เข้าป่าจับอาวุธมารบค่ะ เพราะเผด็จการไม่มีทางวางมือไปเอง โดยที่มีคนปากแจ๋วพูดทุกวันว่ารอเช็กบิล