จากกรณี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับกรมขนส่งทางบก ทางบก และตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เปิดปฏิบัติการ “พลิกถนนล่า รหัสโจรกรรม” จับ 2 ผู้ต้องหาแก๊งสวมทะเบียนรถ โดยแอบใช้ยูสเซอร์เนม-พาสเวิร์ดของเจ้าหน้าที่ขนส่ง เข้าไปเจาะข้อมูลเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลรถยนต์ จากนั้นไปแจ้งหายเพื่อทำเล่มทะเบียนใหม่ ก่อนนำไปจำนำหรือขาย โดยปูพรมยึดรถได้ 65 คัน มูลค่ากว่า 77 ล้านบาท สำหรับลูกค้าส่วนใหญ่มีทั้งดารานักแสดงดัง ในจำนวนนี้มีพระเอกชื่อดังอักษรย่อ “ม.” กลุ่มไฮโซ และคนเล่นรถโบราณ เบื้องต้นตำรวจได้ออกหมายเรียกดาราคนดังกล่าวมาสอบปากคำ ก่อนที่ภายหลัง “มาริโอ้ เมาเร่อ” ได้ออกมายอมรับว่าเป็นดารา “ม” ที่มีชื่อเอี่ยวโยงแก๊งดังกล่าว หลังซื้อรถมาจากรุ่นพี่ที่รู้จัก พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ใจเตรียมให้ปากคำกับทางตำรวจ ภายในสัปดาห์นี้ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้าวันที่ 8 ส.ค. มีรายงานว่า ทางพนักงานสอบสวนได้ประสานไปยังนักแสดงหนุ่ม “มาริโอ้ เมาเร่อ” ให้เข้ามาให้ข้อมูลพร้อมนำหลักฐานมาแสดงกับทางเจ้าหน้าที่ กรณีที่ปรากฏชื่อครอบครองรถยนต์ยี่ห้อ เบนซ์รุ่น G-300 สีขาว โดยทางนักแสดงหนุ่มได้นัดหมายเตรียมเข้าให้ปากคำและชี้แจงข้อมูลกับทางตำรวจ บช.สอท. ในเวลา 10.00 น. วันที่ 9 ส.ค. นี้

อย่างไรก็ตาม ในส่วนประเด็นที่จะทางชุดทำงานจะสอบปากคำนักแสดงหนุ่มจะเป็นประเด็น ซึ่งการได้มาของเล่มรถยนต์ที่ปรากฏชื่อของนักแสดงคนดังกล่าว รวมทั้งการซื้อขายรถยนต์ที่มาริโอ้อ้างว่า ได้ติดต่อซื้อรถมาจากรุ่นพี่อีกคนหนึ่ง โดยได้เพียงเล่มทะเบียน แต่ยังไม่ได้รถยนต์ และในส่วนของการขยายผลชุดทำงาน เตรียมออกหมายเรียกผู้ที่ปรากฏชื่อในเล่มทะเบียนที่ครอบครองรถลอตแรกทยอยมาให้ปากคำ อีกทั้งอยู่ระหว่างรอทางกรมศุลกากรทำหนังสือตอบกลับเรื่องข้อมูลที่มาของซากรถยนต์-รถยนต์ของกลางทั้ง 65 คันที่ตรวจยึด ว่ามีการสำแดงเข้ามาถูกต้องหรือไม่ รวมทั้งรอรายงานผลตรวจพิสูจน์รถของกลางอย่างเป็นทางการจากกองพิสูจน์หลักฐานมาประกอบสำนวนต่อไป.