เมื่อวันที่ 9 ส.ค. เนเน่ รัดเกล้า สุวรรณคีรี อดีตผู้สมัคร สส.กทม. เขต 33 บางพลัด-บางกอกน้อย พรรครวมไทยสร้างชาติ ลูกสาว ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับกลุ่มทะลุวังผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า

ถ้าคำยอดฮิตของช่วงนี้คือ​ #เพ้อเจ้อ ขอเสริมอีกหนึ่งคำคือคำว่า #พร่ำเพรื่อ

จากสถานการณ์ที่กลุ่ม​ #ทะลุวัง​ ได้ไป #ระราน (ขอไม่ใช้คำว่า​ “ต่อสู้เพื่อสิทธิ” เพราะมันเลยจุดนั้นไปนานแล้ว)​ #พรรคเพื่อไทย​ ที่พยายาม​ #จัดตั้งรัฐบาล2566 และเพิ่งได้มีการแถลงข่าวร่วมกับ #พรรคภูมิใจไทย​ เสร็จสิ้นไป

ได้มีการใช้วาจาที่รุนแรง​ และมีพฤติกรรมที่ หยาบโลน ไร้ซึ่งการเคารพในทุกกฎเกณฑ์ และทุกธรรมเนียมปฏิบัติ… หรือกล่าวหยาบๆ​ สั่นๆ​ ได้ว่า #ถ่อย… และสิ่งหนึ่งที่เนเน่​ (และเชื่อว่าอีกหลายๆ​ คนก็เช่นกัน)​ สังเกตเห็นได้คือ​ ด่านหน้าของ​ #ม็อบถ่อย คือ “เยาวชน” และ “สตรี” ซึ่งความน่าสลดใจคือเขาใช้ ความเป็นเยาวชนและความเป็นผู้หญิงมาเป็นเกราะกำบังในการกระทำความผิด

หากมีใครมาโดนเนื้อตัวแม้เพียงน้อยก็จะ​กรีดร้องออกมาประหนึ่งว่าถูกทำร้ายอย่างรุนแรง ตอนนี้เราเลยตกอยู่ในสถานการณ์ที่ผู้ควบคุมกฎเกณฑ์ไม่กล้ากระทำรุนแรง เพราะ​เกรงกลัวว่าจะโดนรุมประนามจากกลุ่มทัวร์ว่า​ #รังแกเยาวชน #รังแกผู้หญิงอีก​ ทั้งๆ​ ที่ถูกก็ควรจะว่าถูก​ ผิดก็ควรว่าผิด… กระบวนการทั้งมวลทำให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่การเป็นอนาธิปไตย​ (Anarchy) หรือคือเป็นบ้านเมืองที่ไร้กฎ​ ไร้เกณฑ์ อย่างช้าๆ​ แต่ชัวร์ๆ​… รู้ตัวกันสักทีเถอะว่าคุณ…

ใช้สิทธิความเป็น​ #เยาวชน พร่ำเพรื่อ
ใช้สิทธิความเป็น #ผู้หญิง #สตรี​ พร่ำเพรื่อ
ใช้คำว่า​ #ประชาชน​ พร่ำเพรื่อ
ใช้คำว่า​ #ประชาธิปไตย​ พร่ำเพรื่อ
ใช้คำว่า #สิทธิในการแสดงออก พร่ำเพรื่อ ​

การ​ “ใช้” สิ่งต่างๆ​ เหล่านี้อย่างพร่ำเพรื่อ เป็นการลดคุณค่าให้กับตัวคุณเอง​ ลดคุณค่าของสิ่งเหล่านั้น และสร้างความยากลำบากให้กับผู้อื่นที่เขาพยายามต่อสู้เพื่อสิทธิเหล่านี้อย่างถูกวิธี

เราจะสู้เพื่อเสรีภาพในการแสดงออกของเยาวชนได้อย่างไรในเมื่อมีตัวอย่างของเด็ก ที่คิดไม่ได้ ไร้ซึ่งการเคารพกฎเกณฑ์ ไม่มี วิจารณญาณเรื่องความเหมาะสมใดๆ เช่นนี้

เราจะต่อสู้เพื่อสิทธิของผู้หญิงในการเมืองได้อย่างไร ในเมื่อมีตัวอย่างของผู้หญิง ที่คิดไม่ได้​ และเอาเพศสภาพของตัวเองมาเป็นอาวุธอย่างนี้

เราจะต่อสู้เพื่อให้เมืองไทยมีนักการเมืองที่ เป็นตัวแทนของประชาชนได้อย่างไร ในเมื่อมีตัวอย่างของประชาชนที่ไม่เคยรับฟังความเห็นต่างอย่างนี้ คนที่อาสาเป็นตัวแทนของพวกคุณเขาจะได้รับความเชื่อถือได้อย่างไร

และเราจะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยได้ยังไง ในเมื่อคนที่บอกว่าต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ไม่เข้าใจ​ ไม่รับฟัง​ ไม่ยอมปรับตัว เพื่อที่จะเข้าร่วมสังคมกับคนอื่นได้เลย

คิดค่ะคิด มีสติ และคิดให้ได้สักที ว่าที่ทำอยู่ทุกๆ​ วันนี้ คุณกำลังทำลายและทำร้ายอะไร… ไม่ใช่พรรคเพื่อไทย ไม่ใช่พรรคภูมิใจไทย​ แต่มันคือตัวคุณเอง และกลุ่มเยาวชน กลุ่มสตรีคนอื่นๆ ทั่วทั้งประเทศ

คิดได้แล้ว… ช่วยหยุดด้วยนะคะ