จากกรณีที่กลุ่มนักกิจกรรมทางการเมือง บัญชีเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ “โมกหลวงริมน้ำ” ได้มีการประกาศชักชวนผ่านโซเชียลมีเดียให้มวลชนมารวมตัวชุมนุมกันในวันที่ 13 ส.ค. ก่อนตั้งขบวนรถในเวลา 14.00 น. เริ่มต้นที่สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต-พรรคภูมิใจไทย-พรรคเพื่อไทย เพื่อทำกิจกรรมขับไล่และส่งเสียงเรียกสะท้อนความไม่พอใจไปยังกลุ่มจัดตั้งรัฐบาลล่าสุด ซึ่งนำโดยพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำในครั้งนี้ พร้อมกับการประกาศสลายขั้วร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับ 278 เสียง ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย (ภท.) 71 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) 10 เสียง พรรคประชาชาติ (ปช.) 9 เสียง พรรคเพื่อไทรวมพลัง (พทล.) 2 เสียง พรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) 2 เสียง ส่วนพรรคเสรีรวมไทย (สร.) พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย พรรคละ 1 เสียง เป็น 238 เสียง รวมกับทางพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ประกาศจะยกมือให้กับพรรคเพื่อไทยอีก 40 เสียง ทำให้จะมีเสียงรวมกันอยู่ที่ 278 เสียง ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 13 ส.ค. ที่ บริเวณหน้าสวนจตุจักร ใต้สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในช่วงบ่ายวันนี้กลุ่ม “โมกหลวงริมน้ำ” ได้รวมตัวกันเพื่อร่วมทำกิจกรรมคาร์ม็อบ ภายใต้ชื่อ “เราจะไปไล่ หนูท่อ! หมอเก๊! พ่อค้ากัญชาเถื่อน! แล้วไปดัดสันหลังเพื่อนรว๊ากส์ ที่หักเหลี่ยมกันหน้าด้านๆ”

 โดยนายโสภณ สุรฤทธิ์ธำรง หรือเก็ท นักกิจกรรมกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ พร้อมด้วยมวลชนบางส่วนเริ่มมารวมตัวกัน เพื่อทำกิจกรรมคาร์ม็อบ ประกอบด้วย กลุ่มมวลชนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ รถยนต์ และปิดท้ายขบวนด้วยรถโมบายล์ที่ติดตั้งเครื่องขยายเสียง เตรียมเคลื่อนไปยังหน้าบริเวณที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เพื่อไปแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ต่อด้วยบริเวณหน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยแต่ละจุดจะทำกิจกรรมประมาณ 20 นาที และได้ขออนุญาตใช้พื้นที่ทำกิจกรรมกับสถานีตำรวจในพื้นที่แล้ว

นายโสภณ กล่าวก่อนเริ่มกิจกรรมว่า วันนี้ต้องการสื่อสารให้พรรคการเมืองทำตามเสียงประชาชน อย่างสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่รัฐธรรมนูญเขียนว่าให้สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้นั้น แต่ สว. ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งไม่ควรโหวตสวนประชามติประชาชน ซึ่งตอนนี้กลายเป็นว่ากระแสการเมืองและสังคมเปลี่ยนไปมาก ผู้มีอำนาจในพรรคการเมืองที่เคยสัญญากับประชาชนว่าจะไม่จับมือกับพวกฝั่งตรงข้ามก็ไปจับมือ และจะมาบอกว่าเป็นแค่เทคนิคการหาเสียงมันทำให้เสียความรู้สึกมาก ขายนโยบายโกหกประชาชน จึงทำให้ต้องออกมาพูดส่วนเรื่องที่พรรคการเมืองที่เคยทำความเสียหายกับประชาชนอย่างพรรคภูมิใจไทย ก็ทำให้ประชาชนเจ็บช้ำมามากแต่พรรคเพื่อไทยจะมาจับมือร่วมจัดตั้งรัฐบาลนั้น คุณไม่เห็นหัวของประชาชนหรืออย่างไร และ คุณยังอภิปรายไม่ไว้วางใจนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ไม่มีความรู้ด้านการแพทย์แต่จะมาจับมือกันตั้งรัฐบาล

นายโสภณ กล่าวว่า  สำหรับการทำกิจกรรมในวันนี้ จะเดินทางเคลื่อนขบวนไปที่พรรคภูมิใจไทยก่อน เพราะเรามีความไม่ไว้วางใจนายอนุทิน ที่เคยสร้างความเสียหายในช่วงการแพร่ระบาดโรคไวรัสโควิด-19 และไม่มีความรู้ด้านการแพทย์ ส่วนการทำกิจกรรมที่หน้าพรรคเพื่อไทย ก็เพราะเคยขายนโยบายไว้อย่างสวยหรูกับประชาชนแต่มาผิดคำพูดกับประชาชน อย่างไรก็ตาม วันนี้ก็จะมีกิจกรรมไฮไลท์และเซอร์ไพร์สไปเรื่อยๆระหว่างทาง โดยจะออกแบบกิจกรรมให้มีความแปลกใหม่ ขอให้คอยติดตาม

ทั้งนี้ ขอย้ำว่าตอนนี้ประชาชนถูกขโมยความฝัน โดยเราจะขึ้นปราศรัยที่ไม่ใช่เพียงคำพูดลอยๆ แต่เป็นความเห็นในเชิงยุทธศาสตร์ว่าตอนนี้การเมืองมีปัญหาจริงๆ ซึ่งมีความไม่เห็นด้วย ส่วนสาเหตุที่เลือกทำกิจกรรมวันนี้ เพราะมีความสะดวกเนื่องจากช่วงวันจันทร์ถึงวันศุกร์ต้องเรียนหนังสือและในวันนี้พรรคการเมืองต่างๆก็ปิดทำการ จึงอยากจะไปแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยไม่ได้ต้องการเผชิญหน้ากับบุคคลในพรรคการเมือง ทั้งพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทย

สำหรับการเคลื่อนไหวทำกิจกรรมของมวลชนขณะนี้ค่อนข้างมีกระแสลบออกมาจากการนัดทำกิจกรรมก่อนหน้านี้ของกลุ่มทะลุวังนั้น นายโสภณ ระบุว่า การเคลื่อนไหวทางการเมืองมันมีหลายแนวทาง หนึ่งคำถามมีได้หลายคำตอบทั้งหมดต้องเรียนรู้ร่วมกันไป และสังคมต้องเลือกว่าชอบแนวคิดหรือออปชั่นแบบไหน อย่างกลุ่มโมกหลวงริมน้ำล่าสุดก็ไปทำกิจกรรมแจกใบปลิวที่ตลาดเสรีมาร์เก็ตซึ่งมีสมาชิกวุฒิสภาเป็นผู้ดูแลตลาด ส่วนวันนี้ก็เลือกมาทำกิจกรรมกับพรรคการเมือง ที่เคยบอกว่าจะไม่จับมือกับพรรคสองลุงแน่ๆ

ส่วนจะมีการยกระดับการชุมนุมหรือไม่นั้น นายโสภณ บอกว่า คำว่ายกระดับ ตอนนี้ถูกใช้กันกลาดเกลื่อน ฉะนั้นเราจะใช้องค์ความรู้สื่อสารออกไปให้สังคมเข้าใจ สิ่งนี้มีความสำคัญกว่าการยกระดับ อีกทั้งการนัดชุมนุมทำกิจกรรมที่ผ่านมามีความคืบหน้าไปอย่างไรบ้างนั้น ตอนนี้ทุกอย่างค่อยๆเปลี่ยนแปลง แม้ความคืบหน้าอาจจะยังไม่เห็นได้ชัด แต่ที่ผ่านมาก็คิดว่าพรรคเพื่อไทยก็ยังมีการฟังเสียงประชาชนอยู่บ้าง เห็นได้จากการจะจับมือร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองไหนก็มีการหยั่งเชิงเสียงของประชาชน พร้อมกันนี้ขอย้ำว่ากลุ่มโมกหลวงริมน้ำพยายามผลักดันในเรื่องสิทธิมนุษยชนโดยการชุมนุมปราศจากความรุนแรง

ขณะที่ พ.ต.ท.วรภัทร สุขไทย รอง ผกก.ป. สน.บางซื่อ เปิดเผยว่า ตนได้มีการพูดคุยกับนายโสภณ สุรฤทธิ์ธำรง หรือเก็ท แกนนำกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ ซึ่งทางนายโสภณ ได้มีการแจ้งเอกสารขอทำการชุมนุมเรียบร้อยแล้ว โดยเราได้มีการกำชับว่าการชุมนุมนั้นจะต้องเป็นไปตามข้อกฎหมาย เพื่อให้มีความเรียบร้อยและไม่มีอาวุธหรือสิ่งผิดกฎหมายอย่างไรก็ตาม ถือว่าได้รับความร่วมมือที่ดี อีกทั้งตนก็ได้ประสานงานกับประชาสัมพันธ์ของการจัดการจราจรแล้วว่าให้ผู้ชุมนุมสามารถตั้งขบวนได้ โดยให้ใช้สองเส้นทางคู่ขนาน เพื่อไม่ให้กระทบกับช่องทางหลักสำหรับการจราจรทั่วไปของประชาชน

ส่วนการเคลื่อนขบวนของกลุ่มผู้ชุมนุมจากพื้นที่ สน.บางซื่อ ไปยังพื้นที่ของพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทยนั้น ทราบว่า บก.น.2 โดย ผบก.บก.น.2 ได้มีการจัดเตรียมช่องทางจราจรต่างๆของทั้ง สน.พหลโยธิน และสน.ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เพราะถือเป็นพื้นที่เขตติดต่อกันทั้งหมด แต่เบื้องต้นโดยรวมแล้วพบว่าผู้ชุมนุมมาโดยสวัสดิภาพไม่มีอาวุธใด สำหรับเจ้าหน้าที่ที่มาดูแลความเรียบร้อยในวันนี้ ในส่วนของ สน.บางซื่อ เราใช้เจ้าหน้าที่ประมาณ 20 นาย จะรับหน้าที่ดูเเลเรื่องอุบัติเหตุ และกลุ่มบุคคลที่สามเพื่อให้เกิดความปลอดภัยเต็มที่ ส่วนของ สน.อื่นๆ ได้มีการจัดเตรียมกองกำลังเจ้าหน้าที่ไว้แล้ว ทั้งนี้ มีกองกำลังควบคุมฝูงชนอยู่จริง แต่ขอให้ไม่ต้องห่วง เจ้าหน้าที่ไม่มีอาวุธมือเปล่าล้วนๆ ถือว่าวันนี้ถ้าการชุมนุมมีความเรียบร้อยตามที่ตั้งขบวน ตนคิดว่าอาจจะไม่มีสถานการณ์บานปลายใดๆ

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 14.20 น. ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กลุ่มแกนนำโมกหลวงริมน้ำได้มีการประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง เตรียมตั้งขบวนเคลื่อนย้ายมวลชนมุ่งหน้าไปยังพรรคภูมิใจไทยซึ่งจะเป็นจุดมุ่งหมายแรก โดยภายในขบวนจะมีรถขยายเสียง ตามด้วยรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เป็นลำดับ