เมื่อวันที่ 28 ส.ค. พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้เดินทางมายัง สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อสอบสวนเพิ่มเติมกับ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของบริษัทไฟแนนซ์ชื่อดังแห่งหนึ่ง และนายบี (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี หลังถูกจับกุมในคดีลักลอบจำหน่ายยาเสพติดในสถานบันเทิงหลายแห่งของ จ.เชียงใหม่ โดยมีพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้ควบคุมตัวนายบี ผู้ต้องหาหนึ่งในสองคนขึ้นมาเพื่อทำการสอบสวน ส่วนนายเอ ไม่ยินยอมให้ปากคำ และปฏิเสธข้อกล่าวหา

ภายหลังจากการสอบสวน พล.ต.ต.ธวัชชัย ออกมาเปิดเผยว่า วันนี้มาติดตามและเร่งรัดคดีที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ และสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันจับกุมผู้กระทำความผิด ในข้อกล่าวหาค้ายาเสพติดเคตามีนและยาอี ซึ่งจำหน่ายตามสถานบันเทิงใน จ.เชียงใหม่ ได้ผู้ต้องหาทั้งหมด 2 คน สามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 66 เวลาประมาณ 01.50 น. บริเวณลานจอดรถหน้าร้านสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

พล.ต.ต.ธวัชชัย เปิดเผยต่อว่า ผู้ต้องหาในครั้งนี้ ถือเป็นตัวหลักที่ขายยาเสพติดในสถานบันเทิง และมาเหมือนเป็นนักท่องเที่ยว จากนั้นก็ได้ไปซื้อยาเสพติดมาขาย ประกอบกับเปิดร้านจำหน่ายสุราบังหน้า เบื้องต้นทั้งสองรายให้การว่าซื้อมาเพื่อเสพ แต่ปฏิเสธเรื่องการซื้อมาจำหน่าย โดยแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) ไว้เพื่อการค้า อันก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (เคตามีน) ไว้เพื่อการค้าอันก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน” ส่วนนายเอ ได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม คือ “มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”

พล.ต.ต.ธวัชชัย เปิดเผยต่ออีกว่า ส่วนการขยายผลในวันนี้ ก็เร่งรัดให้มีการสืบสวนว่ายาเสพติดนั้นมาจากไหน มีใครเกี่ยวข้องบ้าง การจับกุมในเคสนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ที่มีการจับกุมต่อเนื่องกัน ก่อนหน้านี้มีการจับกุมในเขตพื้นที่ สภ.ภูพิงค์ และ สภ.สันกำแพง ในครั้งนี้อยู่ในเขต สภ.เมืองเชียงใหม่ ส่วนลูกค้าก็เป็นกลุ่มวัยรุ่นทั่วไป ที่ชอบเที่ยวสถานบริการ ร้านอาหาร ร้านเหล้า ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีการคุมเข้มมาโดยตลอดในเรื่องของสถานบริการ การตรวจยาเสพติดบางครั้งอาจจะต้องหาเชิงลึกในด้านการนำยาเสพติดเข้ามาจำหน่ายในสถานบริการ ของกลางในคดีนี้มียาเสพติดเคตามีน จำนวน 15 ซอง และยาเค จำนวน 4 เม็ด เมื่อผู้ต้องหาเดินทางไปเที่ยวที่ไหน ก็จะนำยาเสพติดไปจำหน่ายด้วย บางครั้งอาจจะไม่ได้นำติดตัวไป แต่เมื่อมีคนต้องการ ก็ให้ลูกน้องนำไปส่งให้ ทำให้เกิดการแพร่กระจายในหลายแห่งของ จ.เชียงใหม่