จากกรณี “หน่อง ท่าผา” คนร้ายยิงตำรวจทางหลวง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. เสียชีวิต และ พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล. บาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดในพื้นที่ ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม นั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ก.ย. รายการ “โหนกระแส” ดำเนินรายการโดย หนุ่ม กรรชัย ได้สัมภาษณ์ นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ รองอธิบดีกรมการปกครอง โดยระบุว่า..

กรณีการเพิกเฉยต่อเหตุการณ์ ที่กำนันพาพยานหลบหนีนั้น ซึ่งกำนันเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง มีอำนาจในการจับกุมผู้กระทำความผิดอาญา ที่เกิดเหตุในเขตตำบลกำนัน ซึ่งสามารถปลดได้เลย เนื่องจากกำนันละเลยต่อหน้าที่ ทางด้านนายสมชัยกล่าวว่า “กำลังสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่และตั้งกรรมการสอบสวน เพื่อดำเนินการต่อไป เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย”

เมื่อถามว่า ปัจจุบันอาวุธปืนในประเทศไทยมันมีมากมาย ซึ่งในเอเชียถือเป็นอันดับ 1 เราจะควบคุมการขออนุญาต การขออาวุธปืนได้อย่างไร นายสมชัย กล่าวว่า “ในส่วนของกรมการปกครอง โดยท่านรัฐมนตรีได้มีหนังสือแจ้งเวียน กำชับในทะเบียนท้องที่ก็คือท่านนายอำเภอกับท่านผู้ว่าฯ ในเรื่องของการเข้มงวดตรวจสอบคุณสมบัติลักษณะต้องห้าม จากที่มีหนังสือออกไปจากเดิม ที่เคยมีเดือนละประมาณหมื่น 2 หมื่นกระบอก ปัจจุบันทั่วประเทศก็อยู่ที่ประมาณเดือนละ 3,000 ก็มีการตรวจสอบคุณสมบัติมากขึ้น ต้องขออนุญาตนำเรียนในประเด็นต่อไป ในเรื่องของควรจะมีการจัดเก็บหัวกระสุนปืนเป็นตัวอย่าง

ทางกรมการปกครอง เราได้มีการสร้างศูนย์เพื่อจัดเก็บหัวกระสุนปืน แต่ก็ยังมีข้อจำกัด เราเก็บได้เฉพาะอาวุธปืนที่เข้ามาใหม่ ตอนนี้เรามีศูนย์จัดเก็บแล้วตอนนี้ ศูนย์สุดท้ายกำลังสร้างอยู่ที่ จังหวัดราชบุรี เรามีทั้งหมด 10 ศูนย์ทั่วประเทศ เป็นศูนย์จัดเก็บข้อมูลหัวกระสุนปืนที่เข้ามาใหม่ ประเด็นเรื่องของสิ่งเทียมอาวุธปืน บีบีกัน หรือแบงค์กัน โดยสภาพดั้งเดิมของทั้ง 2 ชนิดนี้ ยังไม่เข้าข่ายเรื่องของการเป็นอาวุธปืน เพราะฉะนั้นหากว่ามีการพัฒนากันแล้วมันเข้าข่าย มันควรจะกำหนดให้เป็นความผิด มันก็ต้องมีการไปแก้ไขกฎหมายในส่วนนี้ ก็คงต้องมีการดำเนินการกันต่อไป ในประเด็นสุดท้ายก็คือเรื่องของที่จะมีการเรียกอาวุธปืนมา เราได้เคยเสนอของมติ ครม. คนที่มีปืนเถื่อน คือปืนที่ไม่ถูกกฎหมาย ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งตรงนี้ผ่าน ครม. ไปแล้ว ก็คงอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา”

ประเด็นเรื่องของผู้มากบารมีที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น วันนี้จะมีวิธีการจัดการหรือว่าจะตีกรอบยังไงบ้างกับคนเหล่านี้ นายสมชัย กล่าวว่า “ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ผู้ที่บารมีมันอาจจะไม่ใช่เป็นตัวกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือว่าทางผู้บริหารองค์การปกครองท้องถิ่นเสมอไปเพียงแต่ว่า เมื่อเขาเข้ามามีตำแหน่งเป็นบางคนเท่านั้น อย่างกำนันผู้ใหญ่บ้านเราทั่วประเทศ จริงๆ ส่วนใหญ่ก็คือราษฎรในหมู่บ้าน ไม่ได้มีอิทธิพลอะไร แต่มันก็จะมีบางส่วนเท่านั้นเอง การที่เรามีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก็มีมานาน 100 กว่าปีแล้ว ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 โดยมองว่าอยากให้ราษฎรปกครองราษฎรด้วยกันเองก็เลยให้มีผู้ใหญ่บ้าน มีกำนัน

ซึ่งในกระบวนการราชบัญญัติลักษณะบุคลากรท้องที่ พุทธศักราช 2457 ก็มีการกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็นผู้ใหญ่บ้าน รวมแล้วประมาณ 13 ประการ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องของลักษณะต้องห้าม หนึ่งในนั้นคือเรื่องของการไม่เป็นผู้มีอิทธิพลหรือเสียชื่อในทางพาลในทางทุจริต ส่วนคุณสมบัติข้ออื่นๆ มันเป็นสิ่งที่ประจักษ์มันเห็นได้เลย แต่ในการที่จะพิสูจน์ว่าบุคคนนั้นเป็นผู้มีอิทธิพลหรือไม่ หรือเป็นผู้มีชื่อเสียงในทางพาลหรือไม่ มันเป็นกระบวนการของข้อเท็จจริง ที่จะต้องมีการพิสูจน์ก่อนโดยปราศจากความสงสัย เพราะฉะนั้นกระบวนการตรงนี้จึงต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา ในการที่จะตรวจสอบคุณสมบัติว่าบุคคลที่สมัครลงเป็นผู้ใหญ่บ้าน มีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมายหรือไม่ มีลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ถ้าตรวจสอบแล้วว่าไม่มี เราก็ต้องรับสมัครในการที่จะลงสมัครเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้าน”

ส่วนเรื่องการอยู่ในตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อยู่ถึงอายุ 60 ปี มีหลายเสียงวิจารณ์ว่าควรจะมีวาระที่สั้นกว่านี้ พอวาระนานเกินไปจะถือเป็นการสะสมมเรื่องการมีอิทธิมากขึ้นหรือไม่

นายสมชัย กล่าวว่า “โดยกฎหมายปัจจุบัน หลังจากที่เป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้านแล้ว จะมีกระบวนการของการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ทุกๆ 5 ปี ถ้าประเมินปรากฏว่าเขามีการทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด หรือเผอิญในการปฏิบัติหน้าที่มีพฤติกรรมในทางที่ไม่ดี มันมีกระบวนการในการเอาออก เราจะมีการประเมินทุกๆ 5 ปีอยู่แล้ว ซึ่งการประเมินนี้เราประเมินด้วยหัวหน้าส่วนข้าราชการที่อยู่ในอำเภอนั้น ส่วนที่สองก็จะเป็นราษฎรที่อยู่ในหมู่บ้านนั้น หากเราพบว่าเขาทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือมีพฤติการณ์ในทางเสื่อมเสีย เราก็ให้พ้นจากตำแหน่ง”

อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าล่าสุด จากรายงานของนายอำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม มีคำสั่งให้ กำนันนก พักหน้าที่แล้ว

ขอบคุณข้อมูลและภาพ รายการโหนกระแส