เมื่อวันที่ 21 ก.ย. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รรท.ผบก.ทล. สั่งการ พ.ต.อ.ภคพล สุชล รรท.ผกก.2 บก.ทล. พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ รรท.สว.กก.2 บก.ทล., พ.ต.ต.วรฉัตร ฉลวยแสง สว.ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล. ร่วมกันตรวจยึด รถบรรทุกเทรเลอร์ กึ่งพ่วง บรรทุกตับไก่ ปลอมเอกสารใบส่งของและเอกสารเคลื่อนย้ายซากสัตว์ 20 ตัน

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เรียกตรวจสอบเอกสารใบส่งของและเอกสารเคลื่อนย้ายซากสัตว์กรมปศุสัตว์ จากรถบรรทุกตับไก่สดแช่แข็งคันดังกล่าว ไปทางบริษัทที่ระบุในเอกสาร ว่าเป็นต้นทางขายสินค้า เบื้องต้นได้รับแจ้งว่าไม่ได้ออกเอกสารใบขนส่งสินค้าดังกล่าว และไม่ได้ขายตับไก่ให้บริษัทอื่นๆ แต่อย่างใด จึงเชื่อว่าได้มีการปลอมเอกสารขึ้นมา และยืนยันว่าตับไก่ 20 ตันนี้ ไม่ได้เป็นสินค้าของบริษัท เชื่อว่ามีการนำสินค้าที่ไม่ถูกต้องตามกฎมายหรืออาจลักลอบนำเข้ามา โดยการปลอมเอกสารอ้างว่าขออนุญาตปศุสัตว์ ดังกล่าว

ส่วนทางบริษัทที่ถูกระบุว่าเป็นผู้ซื้อ แจ้งว่ามีนายไก่ ไม่ทราบชื่อจริง แอบอ้างเป็นคนดำเนินการจัดหาสินค้า และนัดหมายคนขับไปรับสินค้าพร้อมเอกสารดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ทล. จะเร่งประสานบริษัทต้นทางที่ถูกปลอมเอกสาร มาสอบปากคำเป็นผู้เสียหาย เพื่อหาหลักฐานติดตามนายไก่ ที่แอบอ้างและปลอมเอกสารของบริษัทมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ได้สั่งการให้ อธิบดีกรมปศุสัตว์ ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดยยืนยันหากพบว่าผิดกฎหมายให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เบื้องต้นรับทราบข้อมูลว่าการเข้าตรวจสอบของ ตำรวจทางหลวงเพชรบุรี และเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์เพชรบุรี ได้เรียกตรวจเอกสารการเคลื่อนย้ายซากสัตว์ แต่ปรากฏข้อมูลว่า บริษัทต้นทางอ้างว่าไม่ได้ออกเอกสารใบขนส่งสินค้าชนิดนี้ จึงเชื่อว่าเป็นการปลอมเอกสาร และเครื่องในสัตว์ (ตับไก่) อาจเป็นการลักลอบนำเข้าแบบผิดกฎหมาย จึงสั่งการให้ อธิบดีกรมปศุสัตว์ ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยย้ำให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะถือเป็นเรื่องที่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำลังดำเนินการปราบปรามสินค้าเกษตรที่ผิดกฎหมายทุกชนิด

“การทำงานขอให้ อธิบดีกรมปศุสัตว์ และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้ร่วมมือกันทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ต้องหวั่นเกรงอิทธิพลใดๆ ทั้งนี้ ก็เพื่อที่จะช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากกลุ่มเครือข่ายสินค้าเถื่อนหนีภาษี แนวทางการดำเนินการจึงขอให้ทุกฝ่ายทำงานด้วยความเข้มแข็งจริงจัง ซึ่งจะเป็นการป้องกันกลไกการตลาดที่มั่นคงให้กับพี่น้องเกษตรกร ตามนโยบายรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ให้ไว้ว่า ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ที่มั่นคงใหกับประชาชน” นายไชยา กล่าว