เมื่อวันที่ 26 ก.ย.ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า เกิดเหตุลูกเมาอาละวาดทำร้ายร่างกายบุพการีได้รับบาดเจ็บ ภายในบ้านไม่มีเลขที่ ซอยโรงน้ำสูบบ่อ 2 ชุมชนคลองกานดา หมู่ 8 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงประสาน หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ และตำรวจอาวา สภ.สัตหีบ ร่วมตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว บริเวณหน้าบ้านพบตัวผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือ นายโก๋ (นามสมมุติ)   อายุ 47 ปี อาชีพรับจ้าง นั่งอยู่ในอาการเมาสุรา พูดจาเอะอะโวยวาย ใกล้กันบนแคร่ไม้ไผ่ข้างบ้านพบ นางสุภา (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี มารดานายโก๋ นอนได้รับบาดเจ็บ สภาพใบหน้าปูดบวม แดงช้ำ มีบาดแผลฉีกขาดภายในปาก ไม่ยินยอมให้ส่งตัวรักษา กู้ภัยจึงทำได้เพียงล้างบาดแผล

สอบถาม นายโก๋ ให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้ทำร้ายร่างกายแม่ ส่วนบาดแผลที่เกิดขึ้น เพราะแม่เมาเดินล้มหน้าคะมำกับพื้นเอง ทำให้ผู้เป็นแม่ที่นั่งฟังอยู่เกิดความโมโห พูดสวนมาว่า “ไอ้โก๋มันตีฉัน” พร้อมกับมีพยาน คือเมียนายโก๋ อายุ 47 ปี ที่อยู่ในเหตุการณ์ช่วยยืนยัน ว่านายโก๋ทำร้ายแม่จริง และมีนิสัยดื่มเหล้าเป็นอาจิน หาเงินมาได้ก็ซื้อเหล้าดื่มหมด เวลาเมามักขาดสติ พูดจาเอะอะโวยวาย หาเรื่องทำร้ายคนในครอบครัวอยู่บ่อยครั้ง จนชาวบ้านในระแวกใกล้เคียงต่างเอือมระอา สุดท้ายจึงยอมรับว่า หลังแม่ล้ม จึงได้เอามือทุบตีที่ใบหน้าของแม่จริง ส่วนสาเหตุไม่พอใจที่แม่ถามแล้วไม่ยอมตอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะลงตรวจสอบ ได้มีชาวบ้านภายในซอย แวะเวียนดูด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับช่วยกันเกลี้ยกล่อมให้ นางสุภา ไปตรวจร่างกาย เพื่อนำหลักฐานไปดำเนินคดีกับลูกชายในสายเลือด ในความผิดฐานทำร้ายร่างกายบุพการี แต่ก็ไม่เป็นผล เนื่องจากรักลูกชายคนนี้มาก กลัวลูกจะต้องติดคุก ชาวบ้านยังให้ข้อมูลว่า นายโก๋ มีพฤติกรรมชอบทำร้ายร่างกายแม่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เคยแจ้งความเอาผิดลูก จนชาวบ้านในละแวกรู้สึกเวทนา เอือมระอาต่อการกระทำ และต่างพากันสาปแช่งให้ตกนรก ซึ่งหากผู้เป็นแม่ไม่ยอมเป็นเจ้าทุกข์เอาความ ก็ยากที่จะเอาผิดลูกทรพีคนนี้ได้ ซึ่งตัวผู้เป็นแม่ยอมพบกับชะตากรรมอันเลวร้ายให้ลูกทุบตี ดีกว่าที่จะยอมเห็นลูกตัวเองต้องติดคุก ชดใช้เวรกรรมอย่างทุกข์ทรมาน