เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ที่ฝูงบิน 601 ภายในท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6 (บน.6) นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจความพร้อมของกองทัพอากาศ ในการเตรียมส่งอากาศยานไปรับคนไทยจากอิสราเอล ว่า กองทัพอากาศไทยมีการประชุมร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศและรัฐบาล โดยกำหนดแผนปฏิบัติการไว้เรียบร้อยแล้ว รอการประสานทางการจากรัฐบาล ซึ่งถือว่ากองทัพอากาศเป็นหน่วยงานหลักในการช่วยรัฐบาลรับคนไทยกลับประเทศ โดยได้เตรียมเครื่องบินไว้ทั้ง C-130 และ A-430 รวมไปถึงนักบิน และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานก็พร้อมในการดูแลคนไทยระหว่างเดินทาง

นายสุทิน กล่าวต่อว่า การช่วยเหลือทางการแพทย์หรือการประสานงานด้านอื่นๆ ที่พร้อมจะให้การรักษาคนไทยระหว่างเดินทางได้ โดยไม่ต้องวิตกกังวล ขณะนี้เหลือเพียงขั้นตอนการประสานอพยพคนไทย โดยทางปฏิบัติต้องได้รับอนุญาตจากประเทศอิสราเอล และดูแลอำนวยความสะดวก จึงจะไปรับคนไทยได้ ซึ่งจากการที่มาดูการเตรียมพร้อมในวันนี้ ถือว่าสบายใจและมั่นใจว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่จะเป็นห่วงเพียงว่า สถานการณ์ในพื้นที่ ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมว่า จะรุนแรงขึ้นหรือจะลดลง ถ้ารุนแรงขึ้น สิ่งที่กลัวคือการอพยพคนไทย 30,000 คน อาจจะไม่ทัน จึงต้องขอความร่วมมือจากการบินไทยอีกทางหนึ่งในแบบเครื่องบินเช่าเหมาลำ

นายสุทิน กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ในส่วนเส้นทางการบินไปรับคนไทยก็ได้วางแผนไว้แล้ว แต่เท่าที่ทราบน่านฟ้าประเทศอิสราเอลยังไม่ปิด แต่ถ้าปิดก็มีประเทศรอบๆ ที่จะใช้เป็นทางผ่าน เช่น จอร์แดน ซาอุดีอาระเบีย และไซปรัส ย้ำว่าความปลอดภัย 100% ในการดูแลคนไทยบนเครื่อง แต่ถ้าเป็นเรื่องสถานการณ์ หรือการโจมตี การสู้รบต่างๆ เป็นเรื่องที่ต้องประเมินร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ และทางอิสราเอล แต่ถ้าทางการอพยพทางอากาศยานมีปัญหา ก็คงใช้วิธีอื่นในการช่วยเหลือ สำหรับกรณีคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันเบื้องต้นมีข้อมูลคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน 12 คน ส่วนผู้เสียชีวิตยังต้องติดตามและประเมินวันต่อวัน และการติดตามช่วยเหลือต้องประสานกับทางอิสราเอลดำเนินการ 

ส่วนกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าการช่วยเหลืออพยพคนไทย มีความล่าช้านั้น นายสุทิน กล่าวว่า แม้วันนี้เราพร้อมบินไปรับคนไทย แต่ก็ต้องรอขั้นตอนจากทางอิสราเอล เท่าที่ตรวจสอบตอนนี้ยังไม่มีประเทศไหนที่อพยพพลเมืองออกมา มีเพียงบางประเทศที่เดินทางเข้าไปถึงแล้ว แต่ยังบินกลับไม่ได้ เพราะฉะนั้นยืนยันว่าประเทศไทยไม่ล่าช้า และเตรียมพร้อมที่สุด 

นายสุทิน กล่าวด้วยว่า จากการประเมิน กรณีคนไทยโดนจับตัวไป ไม่ได้จับไปเรียกค่าไถ่และไม่ได้เจาะจงว่าเป็นประเทศใดประเทศหนึ่ง เป็นการจับแบบกวาดต้อนทุกๆ ประเทศ ส่วนถ้าหากในอนาคตจะมีการเรียกค่าไถ่นั้น ทางกระทรวงการต่างประเทศกำลังวางแผนรองรับอยู่ ส่วนเป้าหมายการจับตัวเพื่อไปเป็นโล่มนุษย์ใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ก็ทำนองนั้น.