ผู้เชี่ยวชาญสัตว์ทะเลรุมวิเคราะห์ภาพซากสัตว์สีขาวรูปร่างประหลาดที่เกยตื้น ณ หาดบนเกาะแห่งหนึ่งในประเทศปาปัวนิวกินี แต่ยังไม่อาจหาข้อสรุปได้

ภาพของซากสัตว์ทะเลดังกล่าวมีผู้นำมาโพสต์ไว้บนเฟซบุ๊กเพจ ‘นิวไอร์แลนเดอร์ส โอนลี’ เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2566 ระบุว่าชาวบ้านพบซากสัตว์ทะเลขนาดใหญ่นี้มาเกยตื้นริมหาดบนเกาะเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่ชื่อว่า ซิมเบริ  

เกาะแห่งนี้เป็นเกาะที่เกิดจากภูเขาไฟในทะเลบิสมาร์ก จังหวัดนิวไอร์แลนด์ ประเทศปาปัวนิวกินี มีประชากรราว 1,000 คน

ซากดังกล่าวไม่มีส่วนหัว มีเพียงท่อนหางและลำตัวซึ่งชิ้นเนื้อหลุดหายไปบางส่วน ทั้งร่างเป็นสีขาว ขนาดใหญ่พอ ๆ กับตัวคน เมื่อมองโดยผิวเผิน ชวนให้จินตนาการไปได้ว่าเป็นซากของ ‘เงือก’ ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตในตำนานและเทพนิยาย

ซากสัตว์ประหลาดนี้ถูกเรียกรวม ๆ กันว่า Globster หมายถึงซากวัตถุ​ ซากสัตว์หรือก้อนเนื้อลึกลับที่ไม่อาจระบุที่มาได้ และโดนซัดมาเกยตื้นที่ชายฝั่ง ส่วนใหญ่จะมีลักษณะไม่ครบถ้วนสมบูรณ์เพราะความเน่าเปื่อยทำให้บางชิ้นส่วนหลุดหายไป จนไม่สามารถชี้ชัดลงไปได้ว่าคือซากอะไร 

ซากสัตว์สีขาวในกรณีนี้มีชิ้นส่วนที่หลุดหายไปคือส่วนหัวและเนื้อชิ้นใหญ่บางจุด อีกทั้งไม่มีรายละเอียดเรื่องขนาดและน้ำหนักของซากดังกล่าว เพราะชาวบ้านที่พบไม่ได้จดบันทึกหรือวัดขนาดไว้ตามหลักเกณฑ์ ไม่มีการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ ก่อนที่จะนำซากดังกล่าวไปฝัง ทำให้ไม่สามารถระบุชนิดของสัตว์ที่กลายเป็นซากในครั้งนี้ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญจึงทำได้เพียงสันนิษฐานจากภาพถ่ายมุมต่าง ๆ ที่มีผู้บันทึกไว้เท่านั้น

เฮเลน มาร์ช นักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมจากมหาวิทยาลัยเจมส์ คุกแห่งออสเตรเลีย ให้ความเห็นว่ามันน่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อาศัยอยู่ในทะเล ส่วน ซาชา ฮูเคอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ทะเลจากมหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูว์สแห่งสกอตแลนด์ มองว่าน่าจะเป็นซากที่เน่าเปื่อยของสัตว์จำพวกวาฬหรือโลมา โดยผิวหนังของสัตว์เหล่านี้จะมีการเปลี่ยนสี เมื่อเน่าเปื่อยและหลุดออกจากร่าง

เอริค ฮอยต์ นักวิจัยจากศูนย์อนุรักษ์โลมาในอังกฤษก็เห็นด้วยว่าน่าจะเป็นซากของวาฬขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม เขามองว่าอีกความเป็นไปได้คือ อาจเป็นซากของพะยูน ซึ่งมักมาหากินในทุ่งหญ้าทะเลซึ่งอยู่ในเขตมหาสมุทรน้ำตื้นของปาปัวนิวกินี คาดว่ามันน่าจะตายมาแล้วหลายสัปดาห์

แต่ก็มีผู้เชี่ยวชาญที่เห็นแย้งว่า ซากสัตว์สีขาวนี้ไม่น่าจะเป็นวาฬหรือพะยูน แต่น่าจะเป็นปลานักล่าอย่างฉลาม

แกวิน เนย์เลอร์ นักชีววิทยาทางทะเลแห่งมหาวิทยาลัยฟลอริดาซึ่งมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับปลาฉลามเป็นพิเศษ คิดว่าซากนี้อาจเป็นซากที่เหลืออยู่ของฉลามขนาดใหญ่ แม้ว่ามันจะดูประหลาดมากที่ส่วนผิวหนังของสัตว์ตัวนี้เน่าเปื่อยและหลุดออกไปเกือบหมดทั้งตัว 

ทว่า เกรกอรี สโคมัล ซึ่งเป็นนักชีววิทยาทางทะเลแห่งมหาวิทยาลัยบอสตัน และเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องฉลามเช่นกัน กลับมองว่า ซากร่างนี้ไม่น่าจะเป็นปลาฉลาม แม้ว่าในตอนแรกเขาก็คิดว่ามันน่าจะเป็นฉลามตัวใหญ่ แต่เมื่อพิจารณาไปนาน ๆ เขากลับมองว่ามันน่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลมากกว่า

เขาชี้ว่าในรูปที่ถ่ายให้เห็นส่วนที่น่าจะเป็นกระดูกสันหลังของสัตว์ตัวนี้ ดูแล้วเหมือนกระดูกสันหลังของวาฬมากกว่าฉลาม นอกจากนี้ยังมีชิ้นส่วนที่ดูคล้ายกับหลอดลมห้อยอยู่ตรงบริเวณใกล้ส่วนที่น่าจะเป็นหัวที่หายไปของมัน ซึ่งหากเป็นหลอดลมจริง ก็แสดงว่าซากนี้ไม่ใช่ปลาฉลาม

แต่ที่แน่นอนยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดคือไม่มีผู้เชี่ยวชาญคนไหนมองว่านี่คือซากของ ‘เงือก’ ในตำนานเลย

ที่มา : livescience.com

เครดิตภาพ : Facebook / newirelandersonly