เมื่อวันที่ 27 ต.ค. บก.สส.ภ.2 ประสาน ตม.ท่าอากาศยานกรุงเทพ บก.ตม.2 พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.2 เข้าไปทำการแสดงหมายจับและสามารถจับกุม นายเว่ย ลินวู ( MR.WEI LINWU ) สัญชาติจีน ขณะจะเดินทางเข้ามายังประเทศไทย ผ่านทางสนามบินดอนเมือง ในช่วงเย็นที่ผ่านมา โดยนายเว่ย ลินวู เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบ”

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 ก.ค.เกิดเหตุสลด หลัง นายอัฐวุฒิ ผมเพ็ชร หนุ่มโรงงานในพื้นที่ อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใช้แอปพลิเคชันชื่อว่า “online loan Thailand” หลอกว่าจะให้กู้เงิน แต่ต้องโอนเงินไปให้ก่อน สุดท้ายไม่ได้รับเงินที่ต้องการขอกู้แต่อย่างใด ทำให้เกิดความเครียดและผูกคอตัวเองเสียชีวิตในเวลาต่อมา ต่อมาแก๊งคอลเซนเตอร์ยังได้แชตคุยกับภรรยาผู้ตาย พร้อมส่งข้อความมาเย้ยว่า “ถ้าเขาไม่โลภอยากได้เงินคนอื่นเขาก็ไม่เจอเรื่องแบบนี้ค่ะ ไม่โลภก็รอดค่ะ” โดยขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้จะใช้วิธีการหลอกลวงผ่านทางสื่อโซเชียลต่างๆให้ผู้เสียหายหลงกลและเข้ามาทำเรื่องขอกู้เงิน โดยจะต้องมีการโอนค่าดำเนินการหรือค่าธรรมเนียมไปให้ก่อน สุดท้ายเมื่อผู้เสียหายโอนเงินไปให้ ก็จะไม่ได้รับเงินที่ขอกู้แต่อย่างใด ทำให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งจากกรณีดังกล่าว สภ.แปลงยาว ได้มีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาแล้ว 5 คน

ต่อมา บก.สส.ภ.2 ได้สืบสวนขยายผลต่อ ทำให้ทราบว่าเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้ มีคนจีนเป็นหัวหน้า มีคนไทยเป็นลูกน้อง ใช้ประเทศกัมพูชาเป็นฐานตั้งออฟฟิศ ใช้บัญชีม้าโอนเงินที่หลอกลวงเหยื่อได้เป็นทอดๆในเวลาอันรวดเร็ว และเอาเงินออกหลายช่องทาง พบผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้จำนวนไม่น้อยกว่า 40 รายทั่วประเทศ ซึ่งภายหลังเกิดเหตุดังกล่าว ตลอดระยะเวลาได้มีการดำเนินคดีกับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้มาโดยตลอด ได้มีการออกหมายจับ รวมทั้งหมด 29 หมายจับ มีการตรวจยึดทรัพย์สินเสนอตรวจสอบทรัพย์สินต่อ ป.ป.ง. มูลค่ารวม 2 ล้านบาทเศษ มีการอายัดบัญชีธนาคารของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้ 26 คน มียอดเงินในบัญชีธนาคารที่ถูกอายัด รวมเป็นเงิน 2,018,567.30 บาท ขณะนี้ได้มีผลการดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาแล้วรวม 11 ราย 21 หมายจับ คงเหลือผู้ต้องหาตามหมายจับที่ยังคงหลบหนีอยู่ จำนวน 3 คน ซึ่งหนึ่งในผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ คือ นายเว่ย ลินวู ( MR.WEI LINWU ) สัญชาติจีน ซึ่งเป็นตัวการระดับสูงแก๊งคอลเซนเตอร์และมีหมายจับในคดีนี้จำนวน 3 หมายจับ

สอบสวนเบื้องต้น นายเว่ย ลินวู ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับเครือข่ายแก๊งคอลเซนเตอร์ โดยประกอบธุรกิจโรงแรม ที่ปอยเปต ในประเทศกัมพูชาเท่านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ ก่อนควบคุมตัว นายเว่ย ลินวู ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป