กรณีเมื่อวันที่ 3 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 ออกหมายจับนายวีระชัย หนูด้วง อายุ 42 ปี ฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานมีตำแหน่งหน้าที่ควบคุมดูแลผู้ที่ต้องคุมขังตามอำนาจศาล ซึ่งเป็นบุคคลต้องคำพิพากษาของศาลให้ลงโทษจำคุกตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ร่วมกันกระทำด้วยประการใดๆ ให้ผู้ที่อยู่ระหว่างคุมขัง หลุดพ้นจากการคุมขังไป ซึ่งนายวีระชัยเป็น 1 ใน 2 ผู้คุมราชทัณฑ์ เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช (เวรผลัดเช้า) และเป็นผู้ดำเนินการเปลี่ยนโซ่ตรวนให้นายเชาวลิต ทองด้วง หรือเสี่ยแป้ง นาโหนด นักโทษชายรายสำคัญ ก่อนก่อเหตุในช่วงกลางดึก เวลา 01.00 น. วันที่ 22 ต.ค. ใช้กุญแจผีไขสะเดาะตรวนข้อเท้าหนีออกจาก รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช และขณะนี้นายเชาวลิต ยังอยู่ระหว่างหลบหนีกบดาน ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชได้ออกหมายจับในความผิดฐานหลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของศาล ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

จ่อให้ออกไว้ก่อน! 2 ผู้คุม ‘เสี่ยแป้ง’ ด้านราชทัณฑ์สอบ ยังไม่พบหลักฐานร่วมวางแผนหนี

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 5 พ.ย. นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 ออกหมายจับนายวีระชัย หนูด้วง ซึ่งเป็น 1 ใน 2 ผู้คุมราชทัณฑ์ เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช (เวรผลัดเช้า) ตามมาตรา 157 ฐานความผิด เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานมีตำแหน่งหน้าที่ควบคุมดูแลผู้ที่ต้องคุมขังตามอำนาจศาล ซึ่งเป็นบุคคลต้องคำพิพากษาของศาลให้ลงโทษจำคุกตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ร่วมกันกระทำด้วยประการใดๆ ให้ผู้ที่อยู่ระหว่างคุมขัง หลุดพ้นจากการคุมขังไป เบื้องต้นได้รับการประสานจากเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ทราบว่า น.ส.วิลาวัลย์ หมื่นรักษ์ หรือไหม ผู้รับจ้างเฝ้าไข้นายเชาวลิต (1 ใน 7 ผู้ต้องหาที่ให้การช่วยเหลือหลบหนีแก่นายเชาวลิต) ได้ให้การกับพนักงานสอบสวน พาดพิงพฤติการณ์ของนายวีระชัย โดยระบุว่านายวีระชัย เป็นผู้เปลี่ยนโซ่ตรวนข้อเท้าให้กับนายเชาวลิต ในช่วงเวรผลัดเช้า (ระหว่างห้วงเวลา 08.30-16.30 น.) และเมื่อนายวีระชัย รับทราบหมายจับดังกล่าว ก็ได้เดินทางเข้ามอบตัวและให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (4 พ.ย.)

โฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยอีกว่า ส่วนประเด็นที่สังคมมีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดก่อนหน้านี้ทางราชทัณฑ์ไม่มีคำสั่งย้าย 2 ผู้คุมผลัดเช้าไปปฏิบัติหน้าที่ยังกรมราชทัณฑ์ จ.นนทบุรี เหมือนกับ 2 ผู้คุมผลัดบ่ายนั้น เนื่องจากโดยปกติแล้ว หากมีเหตุการณ์ที่ผู้ต้องขังก่อเหตุหลบหนีจากการคุมขัง ราชทัณฑ์จะพิจารณาย้ายผู้คุมราชทัณฑ์ที่อยู่ในช่วงเวลาเกิดเหตุก่อน คือ ผู้คุมผลัดบ่าย 2 ราย ส่วนผู้คุมผลัดเช้า ทางคณะกรรมการราชทัณฑ์ เพิ่งได้มีการสรุปผลตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นเสนอต่อนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ให้รับทราบ และจะต้องมีการสอบสวนเชิงลึกเพิ่มเติมต่อไป เพื่อคณะกรรมการฯ พิจารณาในส่วนของวินัยอย่างร้ายแรงกรณีกระทำผิดอาญาจนได้รับโทษจำคุก และในช่วงวันจันทร์ที่ 6 พ.ย.เป็นต้นไป อธิบดีกรมราชทัณฑ์จะมีคำสั่งให้ทั้ง 3 ผู้คุมที่ถูกศาลออกหมายจับ โดยจะให้ออกจากราชการไว้ก่อน

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับนายวีระชัย ได้ถูกจับตามองจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์รายอื่นๆ เนื่องจากเป็นผู้ที่ถูกระบุว่า มีส่วนในการเปลี่ยนโซ่ตรวนให้นายเชาวลิต หรือเสี่ยแป้ง ในช่วงกลางวันของวันที่ 21 ต.ค. ในขณะที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ หลังจากคืนก่อนหน้านั้นนายเชาวลิต ได้พยายามตัดโซ่แล้วแต่ไม่สำเร็จ แต่นายวีระชัย ผู้คุมราชทัณฑ์ผลัดเช้ารายนี้กลับไม่ถูกคำสั่งย้ายไปช่วยราชการที่กรมราชทัณฑ์ จังหวัดนนทบุรี เช่นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ผลัดบ่าย 2 ราย.