เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นวันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีเหตุเด็กนักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนชื่อดังใน จ.ศรีสะเกษ เกิดอาการเครียดหนัก กระโดดลงมาจากอาคารเรียนระดับความสูงตึก 4 ชั้น ร่างกระแทกพื้นแขนขาหัก สะโพกแตก อาการสาหัส เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่ง รพ.ศรีสะเกษ จากการสอบสวนทราบว่า ช่วงเกิดเหตุไม่มีใครเห็นว่า นายเอ (นามสมมุติ) ปีนขึ้นที่สูงตอนไหน กว่าจะรู้ก็กระโดดลงมาแล้ว ซึ่งจากจุดที่ตกลงมา คาดว่าน่าจะเป็นการปีนขึ้นไปข้างบน โดยใช้ทางบันไดที่เป็นช่องสำหรับดูแลซ่อมแซมอาคารเรียน สำหรับปมเหตุของเรื่องราวนั้น เบื้องต้นพบว่า นายเอ เป็นคนค่อนข้างเงียบ และมีโลกส่วนตัวสูง แต่ก็ยังพูดคุยกับเพื่อนตามปกติ จึงยังไม่ทราบแน่ชัดว่า นายเอ มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องอะไร

ขณะเดียวกัน นายบี (นามสมมุติ) พ่อของ นายเอ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตั้งแต่ลูกเข้าเรียนชั้น ม.1 ตนจะเป็นคนไปรับไปส่งทุกวัน ซึ่งลูกของตนจะไม่เข้าร่วมกิจกรรมใด ๆ กับทางโรงเรียน เนื่องจากเป็นคนชอบเก็บตัว พอตนมารับลูกตามนัดหมาย 16.00 น. ปรากฏว่าลูกไม่ออกมาตามนัดเหมือนทุกวัน ทำให้รู้สึกถึงความผิดปกติ จนกระทั่งเวลา 17.00 น. ลูกก็ยังไม่โทรศัพท์มาพูดคุยหรือมายังจุดนัดพบ พอสอบถามกับทางอาจารย์ในโรงเรียน กลับได้คำตอบว่า นายเอ ร่วมกิจกรรมกับทางโรงเรียนอยู่ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะทางโรงเรียนไม่ได้บังคับ และลูกชายก็ไม่เคยร่วมกิจกรรมดังกล่าว

เรื่องมาแดงก็ตอนที่เพื่อนที่ทำงานโรงพยาบาล โทรฯ มาบอกว่าลูกชายบาดเจ็บสาหัส ทำให้ตนรู้ความจริง หลังเกิดเหตุ ตนสอบถามทาง ผอ.โรงเรียนแล้ว ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า น้องที่ประสบเหตุไม่ทราบว่าเป็นใคร ไม่มีชื่อนามสกุล ถือเป็นคำตอบที่มีพิรุธมาก นักเรียนโรงเรียนตัวเอง ใส่ชุดนักเรียนมาเรียนหนังสือ อ้างว่าไม่มีประวัติ ไม่มีชื่อ-สกุล ไม่มีแม้แต่เบอร์โทรศัพท์ผู้ปกครอง มันฟังไม่ขึ้น หรือจะอ้างว่าติดต่อตนไม่ได้ ก็คงจะไม่ใช่ เพราะบ้านตนอยู่ใกล้กับโรงเรียน ดังนั้นเรื่องนี้ทางโรงเรียนควรจะแจ้งตน หรือส่งคนมาบอกตนให้เร็วที่สุดถึงจะถูกต้อง สำหรับประเด็นลูกป่วยซึมเศร้าหรือไม่ ตนเชื่อว่าลูกไม่ได้ป่วย เพราะถ้าป่วยก็ต้องสังเกตเห็นอาการบ้างแล้ว หรือหากจะก่อเหตุจริง ๆ ทำไมไม่กระโดดตึกตั้งแต่เช้า จะรอให้เลิกเรียนก่อนแล้วค่อยโดดเพื่ออะไร อยากให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องเหล่านี้ด้วย.