เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสัมภาษณ์ นายแจ้ง แสงกุล หรือใหญ่แจ้ง บ้านตระ อายุ 68 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 บ้านตระ ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง อดีตทหารพราน ทหารผ่านศึก และผู้บุกเบิกชุมชนชนบ้านตระ รวมทั้งเป็นผู้ที่ชำนาญเกี่ยวกับ “เทือกเขาบรรทัด” เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับกรณีการหลบหนีของ “เสี่ยแป้ง” หรือนายเชาวลิต ทองด้วง นักโทษคดีอุกฉกรรจ์ หลบหนีออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 22 ต.ค. 66 ที่ผ่านมา ที่มีการติดตามไล่ล่าของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ขณะนี้

โดยนายแจ้ง แสงกุล หรือใหญ่แจ้ง ได้นำภาพถ่ายเก่าในชุมชนบ้านตระให้ผู้สื่อข่าวดู และวาดแผนที่ชุมชนบ้านตระและพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมกล่าวว่า ภายหลังจากเกิดการยิงต่อสู้ปะทะกับเจ้าหน้าที่ที่ปรากฏเป็นข่าวเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น ตนคิดว่าหากเสี่ยแป้ง ไม่มีคนช่วยเหลือหรือมีคนที่ติดตามอยู่นั้น คงอยู่ลำบาก เพราะด้วยภูมิประเทศ และสัตว์ที่ดุร้ายมีมาก เช่น แมลง งู สัตว์มีพิษ ตำรวจก็เคยเจอกันมาบ้างแล้ว ตนคิดว่าที่เสี่ยแป้งอยู่ได้ เพราะมีคนช่วย หากไม่มีคนที่ช่วยเหลืออยู่ ตนคิดว่าคงอยู่ไม่ได้ ยิ่งช่วงที่ฝนตกหนักเช่นนี้ มีอุปสรรคมากกว่าช่วงฝนแล้ง เช่น น้ำป่าไหลหลาก สัตว์มีพิษจะออกมาอยู่เชิงเขา จะไม่อยู่ริมแม่น้ำ ซึ่งจะอันตรายมากกับคนที่อยู่ในป่า

ตนเชื่อแน่ว่าหากเสี่ยแป้งยังอยู่ โดยมีคนชำนาญเส้นทางพาหลบหนี ยังไงก็ยังคงหลบหนีได้อย่างแน่นอน แต่ตนก็เชื่อว่าไม่พ้นฝีมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากสมมุติว่ามีคนในพื้นที่พาหลบหนีอยู่ เช่น พรานป่า ที่ชำนาญพื้นที่เทือกเขาบรรทัดยังไงก็มีเส้นทางหลบหนี แต่การที่จะหลบหนีไปลงฝั่ง ต.ผาดำ อ.รัฐภูมิ จ.สงขลา เป็นไปได้ยาก เพราะเส้นทางส่วนใหญ่ไม่มีใครรู้เส้นทาง ส่วนใหญ่คนในชุมชนบ้านตระที่ชำนาญเส้นทางมีอยู่หลายคน ตอนนี้เท่าที่รู้ก็มีคนออกไปจากชุมชนหลายคน แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นลูกหลานของใครบ้าง และหายไปอยู่ไหน

ขณะนี้คิดว่าเสี่ยแป้ง ยังคงอยู่ได้อีกหลายวัน เพราะตนเชื่อว่าจะอยู่คนเดียวคงอยู่ไม่ได้แน่นอน แม้จะเก่งมาจากไหน แม้กระทั่งตนก็เหมือนกัน หากไปอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้นก็เหมือนกัน ส่วนที่ว่าเสี่ยแป้ง มีพระดีติดตัวอยู่นั้น ตนก็ไม่ขอก้าวก่ายมาก เพราะตนนับถือศาสนาอิสลาม แต่ก็ไม่ขัดกับศาสนาอื่นๆ แต่สำหรับตนไม่ค่อยเชื่อ เพราะทุกอย่างอยู่ที่การกระทำ เหมือนว่าห้อยพระดีมากแค่ไหน แต่ต้องมามองด้วยว่าการกระทำของเราดีหรือไม่ เราผิดไหม ส่วนวิชาคาถาอาคม ตนมองว่าอายุของเสี่ยแป้ง ในวัยนี้คงจะไม่มี จะมีจริงๆ ก็คนอายุมากคนแก่ๆ อันนั้นตนยอมรับ เพราะต้องมีการศึกษาเล่าเรียน ประกอบกับวิชาคาถาอาคมจะต้องมีการถือหรือหลีกเลี่ยงสิ่งที่เป็นข้อห้ามมากมาย และอาจารย์หรือเจ้าของวิชานั้นๆ จะต้องสั่งและกำกับไว้ว่าจะต้องทำแต่สิ่งดีๆ

หากไม่มีคนนำพา หรือติดตามเสี่ยแป้งไปด้วยนั้น เชื่อแน่ว่าจะต้องหลงป่า เพราะป่าทุกป่าจะมีเจ้าเขาเจ้าที่ หากหลงจริงก็จะเดินวนเวียนอยู่แต่จุดนั้น ไปไหนก็ไม่ได้ แม้จะมองเห็นทางที่จะเดินไปได้ แต่ก็เดินไปไม่ได้ อันตรายมาก มองไม่ถูกเลยว่าทิศไหนเป็นทิศไหน เหมือนเอาอะไรมาคลุมศีรษะเอาไว้หันไปฝั่งไหนก็มึนไปหมด ตนเคยเจอมากับตัวเองในการหลงป่า ซึ่งการเอาตัวรอดของตนตอนนั้น ต้องนั่งนิ่งๆ และท่องคัมภีร์อัลกุรอาน และขอให้องค์อัลเลาะห์ที่ตนนับถือตามศาสนาอิสลาม และเจ้าป่าเจ้าเขา ช่วยเปิดทางให้ จนสามารถรอดพ้นไปได้จากการหลงป่า

อีกทั้งเท่าที่ตนเคยหลงบ้านตระและเทือกเขาบรรทัดนั้น ส่วนใหญ่จะบนบานกับทวดเล็ก ช่วยเปิดตาเปิดใจให้มีเส้นทางได้ออกมา ซึ่งทวดเล็กก็เปรียบเสมือนคนปกป้องชุมชนบ้านตระ ชื่อของท่านคือหมื่นเสนะคีรี ซึ่งเคยมาอาศัยอยู่ในบ้านตระ และเสียชีวิตลงที่นั้น ทั้งนี้ป่าบ้านตระมีอาถรรพณ์ จะทำอะไรผิดแปลกไปจากปกติ จะต้องบนบานศาลกล่าวหรือขอกราบไหว้ขอกับทวดเล็ก ซึ่งอยู่บริเวณเขาตู ซึ่งเป็นทางขึ้นไปยังชุมชนบ้านตระ เพื่อให้เปิดป่าให้ ให้ได้ทำทุกอย่างที่ตั้งใจไว้สมปรารถนา

ส่วนยุทธวิถีในการล่าตัวย้อนไปตอนที่ตนเป็นทหารพราน เข้าปราบผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (ผกค.) ได้ไปฝังตัวอยู่ในชุมชนบ้านตระ และเทือกเขาบรรทัดนับเดือน โดยใช้ชีวิตเหมือนคนป่า เพื่อให้กลมกลืนกับธรรมชาติ ใช้ชีวิตเหมือนคนป่า แต่เป็นการใช้ชีวิตแบบนักล่า ไม่ใช้ผู้ถูกล่าในสมัยนั้น การส่งเสบียงในอดีตส่งยาก แต่ปัจจุบันนี้การส่งเสบียงเป็นเรื่องง่ายเพราะรถ จยย.สามารถขับขึ้นไปได้บนชุมชนบ้านตระ และปัจจุบันบ้านทุกหลัง แม้กระทั่งขนำร้างที่ไม่มีคนอยู่ ก็จะต้องมีข้าวสารอย่างน้อยๆหลังละ 2-4 กิโลกรัมติดบ้านไว้อยู่

หากตนเป็นผู้ใหญ่บ้านเรื่องนี้คงไม่เกิดขึ้น หรือจะคุยกันได้ นักเลงต้องคุยกับนักเลง เพราะเรารู้ว่าคนนักเลงมีกี่คน อยู่ตรงไหนบ้าง จ.พัทลุง มีใครบ้าง จ.สตูลมีใครบ้าง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านที่นักเลงมีใครบ้างเรามานั่งสุมหัวคุยกัน เพราะไม่มีใครอยากให้สูญเสียกันทั้งสองฝ่าย อยากให้ทำงานนี้เสร็จไปอย่างง่ายๆ โดยไม่มีคำว่าสูญเสีย และยิ่งยืดเยื้อชาวบ้านก็ยิ่งเป็นที่กังวลใจมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้หากตำรวจมาถามชาวบ้านไม่พูดก็อันตราย พูดไปก็อันตราย ตอนนี้ชาวบ้านพูดอะไรไม่ได้เลย ชาวบ้านหมู่ 2 ต.ปะเหลียนแบ่งเป็น หมู่ 2 ตอนบนคือชุมชนบ้านตระ หมู่ 2 ตอนล่างคือบ้านควนไม้ดำ ผลกระทบทางด้านจิตใจของชาวบ้านมีอยู่แล้ว แต่หมู่ 2 บ้านตระอาจจะน้อยหน่อย เพราะทำใจได้ เคยโดน ผกค.มาแล้ว แต่เรื่องนี้กับเรื่อง ผกค.ไม่เหมือนกัน และคนละเรื่อง

แต่ก่อนต้องสร้างมวลชนก่อน และสร้างการข่าว เมื่อสร้างการข่าวแล้วต้องรักษาแหล่งข่าวให้ได้ แต่เดี๋ยวนี้การข่าวไม่มีใครกล้าพูดกัน เพราะให้ความอบอุ่นตรงนี้ให้กับชาวบ้านไม่พอ เพราะจะต้องรักษาคนของเราให้ได้ ที่ชาวบ้านไม่กล้าออกมาพูดเพราะไม่มีใครปกป้องเขาได้ ตำรวจทำงานเสร็จก็กลับบ้าน แต่ชาวบ้านยังอยู่ในพื้นที่ การสนิทสนมหรือทำสงครามจิตวิทยากับชาวบ้านแทบจะไม่ค่อยมี ซึ่งมองว่าเป็นจุดลำบากตรงนี้ก็มีส่วน และตนมองว่าหลังจากจบคดีเสี่ยแป้งแล้ว ไม่ว่าจะจบลงแบบไหนก็ตาม ชาวชุมชนบ้านตระจะอยู่ยากขึ้น เพราะปัจจัยหลายสาเหตุจากคดีเสี่ยแป้ง.