เมื่อวันที่ 18 พ.ย. กรณีพบศพนายชูเชียง เฉิน อายุ 48 ปี ชาวไต้หวัน ถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมภายในห้องพักในคอนโดฯ แห่งหนึ่ง พื้นที่ สน.บางนา เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ต่อมาตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับทีมสังหาร 4 ราย และสามารถติดตามจับกุมได้ 2 ราย คือนาย แซวอ ลิง แปร่ หรือเจนซี่ (ZWE LIN PYAE ) อายุ 21 ปี ชาวเมียนมา และ นายจอห์น แอบอน อายุ 40 ปี (John Agbor) ชาวแคเมอรูน ส่วนอีก 2 ราย เป็นหญิงสาวชาวไทย อายุ 34 ปี ชาว จ.ราชบุรี และอีกรายเป็นชายชาวตะวันตกไม่ทราบชื่อ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสามารถพิสูจน์ทราบชื่อผู้ก่อเหตุที่ยังหลบหนีได้แล้วคือ Mr.Mamid Reza Mohagheghi ชาวอิหร่าน อายุ 37 ปี กับ น.ส.นภัสรดา อายุ 34 ปี ชาว จ.ราชบุรี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตามตัว และมีรายงานแจ้งว่า ต้นเหตุของคดีสะเทือนขวัญดังกล่าว สืบเนื่องมาจาก น.ส.นภัสรดา ซึ่งมีความสัมพันธ์เป็นแฟนกับ Mr.Mamid ผู้ต้องหาชาวอิหร่าน ส่วนผู้ตายได้มีการชักชวน Mr.Mamid มาร่วมลงทุนทำธุรกิจรีโนเวทโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ จากนั้นนายจอห์น ผู้ต้องหาชาวแคเมอรูน ที่มีอาชีพโบรกเกอร์ และมีความสนิทสนมกับผู้ตายรวมถึง Mr.Mamid ด้วย โดยเมื่อเวลาที่ผู้ตาย ไปกินข้าวกับนายจอห์น และ Mr.Mamid ก็จะมีน.ส.นภัสรดา ติดตามไปกินข้าวด้วยทุกครั้ง จนทำให้ น.ส.นภัสรา แอบมีความสัมพันธ์กับผู้ตายด้วย

รวบ ‘เมียนมา-แคเมอรูน’ ทีมฆ่าโหดหนุ่มไต้หวัน เร่งล่าสาวไทย-ฝรั่งผิวขาวอีก 2

ต่อมาน.ส.นภัสรดา ได้มีการโพสต์เฟซบุ๊กเปิดรับสมัครนักสืบให้ช่วยแกะรอยผู้ตาย โดยอ้างว่าผู้ตายติดหนี้ และจะจ่ายค่าจ้างวันละ 2,000 บาท ทำให้นาย แซวอ ลิง แปร่ หรือ เจนซี่ (ZWE LIN PYAE ) อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาชาวเมียนมา ได้ติดต่อมาสมัครงานกับน.ส.นภัสรดา โดยช่วงแรกหวังจะให้นายแซวอ นำ GPS ไปติดที่รถยนต์ของผู้ตาย เพราะปกติเมื่อผู้ตายมาประเทศไทยจะมีรถยนต์ส่วนตัว แต่ครั้งนี้ไม่ได้เอารถมาด้วย จากนั้นน.ส.นภัสรดา เริ่มวางแผนโดยให้นายแซวอ ไปเปิดห้องพักที่ชั้น 5 ของโรงแรมจุดเกิดเหตุ ส่วนผู้ตายอยู่ที่ชั้น 6 โดยที่ผ่านมานายแซวอ ยังไม่ได้รับค่าจ้างจาก น.ส.นภัสรดา แม้แต่บาทเดียว

โดยน.ส.นภัสรดา ได้ย้ำกับนายแซวอบอกว่า ถ้าทำสำเร็จจะให้เงินก้อนใหญ่ 1 ก้อน ก่อนเกิดเหตุทางนายแซวอ ได้เปิดห้องพักในราคา 800 บาท และนายแซวอได้โทรตาม Mr.Mamid และนายจอห์น มาวางแผนที่ห้องพักซึ่ง น.ส.นภัสรดา หลอกนายแซวอ ว่าทั้งนายจอห์น และMr.Mamid เป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยเอฟบีไอมาร่วมด้วย จากนั้นนายแซววอได้เดินไปเคาะห้องผู้ตายและเข้าไปพูดคุยนานกว่า 2 ชั่วโมง เมื่อสบโอกาสจึงโทรตามนายจอห์น และMr.Mamid มาก่อเหตุ โดยนายจอห์นได้ใช้สเปรย์พริกไทยพ่นไปที่หน้าผู้ตายใช้จังหวะชุลมุนต่างช่วยกันจับตัวผู้ตาย

มีรายงานอีกว่า โดยผู้ก่อเหตุทั้ง 3 ราย หวังจะเอาทรัพย์สินของผู้ตายไป แต่ปรากฏว่าไม่มีทรัพย์สินใดๆ โดยนายแซวอ อ้างว่าทรัพย์สินของผู้ตายที่หายไปทั้งแท็บเล็ต มือถือ รวมถึงเงินสดไม่ทราบจำนวน มี Mr.Mamid ชาวอิหร่านเป็นคนนำทรัพย์สินไปทั้งหมด

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตามตัว Mr.Mamid Reza Mohagheghi ชาวอิหร่าน และน.ส.นภัสรดา มาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.