เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. หน่วยกู้ภัยวังกรูด อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งขอความช่วยเหลือตามหาครอบครัว สองพ่อลูก วัย 45 และ 23 ปี กับหลานๆ อีก 3 คน อายุ 8 -11 -14 ขวบ ที่หายตัวไปตั้งแต่เช้าติดต่อไม่ได้ หลังพากันออกไปเอาทรายกลางแม่น้ำมูล ต.ท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ จึงสนธิกำลังออกค้นหาตั้งแต่ช่วงเที่ยง กระทั่งเวลาประมาณ 15.00 น. พบรถอีแต๊ก (รถไถนาเดินตาม)กับตัวพ่วง จอดอยู่ในแม่น้ำมูล อ.สตึก เขตติดต่อ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ จึงประสาน ตำรวจ สภ.สตึก จ.บุรีรัมย์ และ พ.ต.ท ถนอมจิตร กันยายน สว.(สอบสวน) สภ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นเขตติดต่อ เข้าร่วมตรวจสอบ

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบรถอีแต๊ก มีทรายอยู่เต็มคันรถแต่ไม่พบบุคคลทั้ง 5 พบเพียงกระเป๋าหนังสือของเด็กและรองเท้าวางอยู่ใกล้ในรถอีแต๊ก จึงให้ชุดประดาน้ำ หน่วยกู้ภัยวังกรูด ดำค้นหา แต่เป็นไปด้วยความลำบาก เพราะบริเวณที่มีน้ำขังไม่พบร่างคน ผ่านไปกว่า 3 ชม.เจ้าหน้าที่จึงพบร่างนายวิริยา อายุ 45 ปี อยู่ใต้น้ำ ก่อนจะพบร่างไล่ไปที่ละคน จนครบหมด 5 ศพ จมติดอยู่ในทราย ทามกลางความเศร้าสลดของญาติๆที่มารอดูการค้นหาอย่างสิ้นหวัง

สอบถามภรรยานายวิริยา อายุ 44 ปี เล่าว่าวันนี้ตนไม่อยู่บ้าน เท่าที่ทราบสามีจะมาเอาทรายในบ่อทรายดังกล่าวไปปูกระเบื้อง คาดว่าน่าจะชวนลูกสาวและหลานมาด้วย ตั้งแต่เช้า กระทั่งช่วงสายๆตนกลับมาเห็นทั้งหมดยังไม่กลับออกตามหาก็ไม่พบ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยตามหา กระทั่งมาพบศพดังกล่าว

ส่วนสาเหตุเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปได้ คาดว่าอาจจะมีเด็กคนใดคนหนึ่งไปเล่นน้ำแล้วจมน้ำ จากนั้นแต่ละคนจะเข้าไปช่วยเหลือแล้วจมน้ำไปด้วยกัน หรือขณะที่นายวิริยา กำลังตักทรายขึ้นรถ ส่วนเด็กๆก็อาจลงเล่นน้ำ ขณะที่ทรายจุดที่ถูกตักไปทำให้ไปกระทบทรายจุดอื่นที่เด็กๆเล่นกันอยู่ทำให้ถูกทรายดูดลงไปแล้วจมหายและพยายามช่วยกันค้นหาจึงทำให้อาจถูกทรายดูดลงไปเสียชีวิตทั้งหมดดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป