เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่ศูนย์ประสานงานเพจสายไหมต้องรอด เขตสายไหม น.ส.เนย (นามสมมุติ) พริตตี้สาววัย 36 ปี มีผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคน เดินทางเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือหลังถูกแก๊งคนจีนวางแผนจัดหาหนุ่มชาวจีนมาคบหาจนตั้งครรภ์ จากนั้นไปพบแพทย์อัลตราซาวด์พบว่าได้ลูกสาว จึงไปบอกฝ่ายชาย พอฝ่ายชายทราบว่าได้ลูกสาวจึงได้บินกลับไปที่จีน อ้างว่ากลับไปทำงาน จากนั้นก็ขาดการติดต่อไปเลย เชื่อว่าเป็นการวางแผนหลอกลวงโดยทำเป็นขบวนการ

น.ส.เนย กล่าวว่า แม่ของตนบังเอิญรู้จักกับหญิงชาวจีนรายหนึ่ง ที่เป็นเพื่อนบ้านอาศัยอยู่คอนโดมิเนียมเดียวกันและสนิทสนมกัน ซึ่งหญิงจีนคนดังกล่าว ทำธุรกิจปล่อยเช่าคอนโดฯ ในประเทศไทยได้ 3-4 ปี ได้แนะนำชายชาวจีนคนหนึ่งโดยอ้างว่าเป็นญาติกัน ซึ่งในขณะนั้นอยู่ที่ประเทศจีน ให้กับตนและแม่ของตนรู้จัก

โดยตนเองก็ยังโสด ไม่มีแฟน จึงลองพูดคุยกับฝ่ายชายผ่านทางแอปวีแชต เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา หลังจากการพูดคุยกันก็รู้สึกว่าเข้ากันได้ จึงมีการนัดเจอกัน โดยฝ่ายชายบินมาหาตนที่ไทยเมื่อช่วงต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา และมีการเที่ยว กิน พักผ่อนด้วยกัน เป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนบินกลับจีน หลังจากนั้นปลายเดือน มิ.ย. ตนสังเกตว่าประจำเดือนไม่มา จึงไปหาหมอเพื่อตรวจและพบว่าตนตั้งครรภ์ จึงไปบอกฝ่ายชาย ฝ่ายชายดีใจมากและได้พูดคุยกันเรื่องงานแต่ง มีการเลือกการ์ด สถานที่ ของชำร่วย และฝ่ายชายก็บินกลับมาอีกครั้งเพื่อทำการสู่ขอและเตรียมงานแต่ง พร้อมถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง โดยมีฤกษ์แต่งงานในวันที่ 9 ก.ย. แต่ต่อมาฝ่ายชายขอเลื่อนงานแต่งไปก่อน เป็นวันที่ 21 ต.ค. โดยอ้างว่า ฤกษ์แต่งงานเดิมคือวันที่ 9 ก.ย ฝ่ายชายไม่สะดวก ซึ่งขณะนั้นตนยังไม่ทราบว่าลูกเพศไหน

อย่างไรก็ตาม น.ส.เนย กล่าวว่า ทุกครั้งที่ตนไปตรวจครรภ์ที่ รพ. หญิงจีนจะขอไป รพ.ด้วยทุกครั้ง ต่อมาช่วงปลายเดือน ก.ย. ตนได้ไปพบหมอเพื่ออัลตราซาวด์ และทราบว่าตนได้ลูกสาว จึงไปบอกฝ่ายชาย จากนั้นฝ่ายชายก็เปลี่ยนไป ไม่ค่อยตอบข้อความ ติดต่อไม่ค่อยได้ โดยเมื่อถึงกำหนดการงานแต่ง ฝ่ายชายก็ไม่ยอมมาตามนัด ตนจึงได้ติดต่อกับทางหญิงคนจีนไปอีกครั้ง แต่หญิงจีน กลับปฏิเสธให้ความช่วยเหลือ ตนจึงบอกว่าจะแจ้งความ แต่โดนหญิงจีนตอบกลับมาว่า “ขอให้ชนะคดีนะ” และหลุดปากออกมาว่า “ทีคนอื่นที่ติดต่อยังท้องได้ลูกชายเลย”

ทั้งนี้ น.ส.เนย กล่าวว่า ฝ่ายชายทำธุรกิจเกี่ยวกับขายของในอินเทอร์เน็ต รายได้ต่อปีหลายร้อยล้านบาท โดยตลอดเวลาที่คบหากัน ฝ่ายชายไม่ได้ร้องขอลูกเพศชายเลย พูดแต่เพียงว่าอยากสร้างครอบครัว และมีลูกด้วยกัน 2-3 คน ตนจึงมั่นใจที่จะสร้างครอบครัว ซึ่งตอนนี้ลูกเหลือเพียง 8 สัปดาห์ก็จะคลอดแล้ว แต่ยังไม่สามารถติดต่อฝ่ายชาย หรือเอาผิด หรือหาความรับผิดชอบกับใครได้เลย จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ ตนมั่นใจว่าเป็นขบวนการล่าลูกชาย เพราะหลังจากเกิดเรื่อง หญิงจีนคนดังกล่าว ก็ไม่คุยกับครอบครัวเธออีกเลย เธอจึงมาขอให้ทีมสายไหมต้องรอดช่วยเหลือเพราะสงสารลูกในท้องต้องกำพร้าพ่อตั้งแต่ยังไม่ลืมตาเกิดมา และอยากฝากเตือนหญิงไทยคนอื่น ๆ ไม่อยากให้ถูกหลอกเหมือนเธอ และอยากให้มีกฎหมายคุ้มครองเรื่องแบบนี้

ด้าน นายเอกภพ ระบุว่า เคสแบบนี้ถ้าเอาผิดอาญาน่าจะยาก แต่จะให้ทีมกฎหมายดูเรื่องทางแพ่งให้ เพราะก่อนหน้าเคยเจอพฤติกรรมแบบนี้มาก่อน แต่ไม่คิดว่าจะมีการทำกันเป็นขบวนการ แต่พอมาเจอเคสนี้เลยรู้ว่าทำเป็นขบวนการ หลังจากนี้จะดูส่วนกฎหมายและติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือผู้เสียหายต่อไป.