เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถนนแจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นางมลตา เอกวิทโยภาส อายุ 59 ปี เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอให้ช่วยตามหาลอตเตอรี่ 4 ใบ และถูกรางวัลที่ 1 โดยทำหล่นหายระหว่างซื้อของในตลาดสดบางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ไว้แล้วเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ไว้เป็นหลักฐานแล้ว

นางมลตา เล่าว่า ได้ซื้อลอตเตอรี่จากพ่อค้าที่ปั่นจักรยาน มาขายให้ โดยเป็นลอตเตอรี่งวดวันที่ 16 ตุลาคม 66 หมายเลข 931446 จำนวน 4 ใบ พ่อค้าแบ่งขายไว้เป็นชุด ชุดละ 2 ใบ ตนก็แปลกใจเลขเดียวกันทำไมต้องแบ่งเป็น 2 ชุด จึงซื้อลอตเตอรี่ชุดนี้มา ที่หน้าร้านสะดวกซื้อติดกับหมู่บ้านนันทนาการ์เด้น 22 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นเลขที่ตามซื้อมานานแล้ว ซื้อประจำ เนื่องจาก 913 เป็นเลขมงคล ส่วน 46 เป็นเลขของญาติที่เสียชีวิตไปตอนอายุ 46 ปี และยังตรงกับเลขฝาโลงของหลานที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้

นางมลตา กล่าวว่า ซื้อเลขนี้จากพ่อค้าขายลอตเตอรี่ที่ปั่นจักรยานมาขายให้ ในวันที่ 13 ต.ค. รวมทั้งซื้อลอตเตอรี่เลขอื่นๆ อีกหลายสิบใบ ในแต่ละงวด ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ต.ค. ได้ไปเดินจ่ายตลาด แล้วทำลอตเตอรี่ที่ซื้อติดตัวไว้หลายสิบฉบับหล่นหาย จึงไปบอกประชาสัมพันธ์ตลาดช่วยประกาศหา แต่ไม่พบ เจ้าหน้าที่บอกมี 3 ชุด ที่คนเก็บได้แล้วนำมาฝากไว้ แต่ไม่ใช่เป็นเลขชุดของตน เลยพยายามเดินหาอยู่นาน กระทั่งไปพบลอตเตอรี่ หมายเลข 449293 อีก 2 ใบ ที่ซื้อไว้หล่นอยู่จึงเก็บมา แต่ลอตเตอรี่ชุดที่ถูกรางวัลที่ 1 หาอยู่นานก็ไม่เจอ ไม่รู้ว่าหล่นหายไปในตลาดหรือทำหายที่ไหน แต่เป็นลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลจริงๆ

นางมลตา เล่าอีกว่า ยืนยันได้ เนื่องจากตนจะสลักชื่อนามสกุลหมายเลขโทรศัพท์ไว้ในลอตเตอรี่ทุกใบที่ซื้อ โดยเฉพาะชุดนี้ จำได้อย่างแม่นยำ เนื่องจากซื้อเลข 913 เป็นเลขมงคลประจำ ส่วนเลข 46 ก็บังเอิญตรงกับ อายุของญาติที่เสียไป รวมทั้งเลขฝาโลงของหลานอีกคน โดยยืนยันว่าจำไม่ผิดอย่างแน่นอน เพราะตนได้ถ่ายภาพลอตเตอรี่ชุดที่ถูกและไม่ถูกทั้งหมดเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือ แต่หลานๆ ที่ยังเล็กมาเล่นโทรศัพท์ของตน และลบภาพไปก่อนหน้านี้ ทำให้ตนเครียดมาก นอนไม่หลับมานานกว่า 2 เดือน เพราะนั่งคิดนอนคิดไม่รู้ว่าลอตเตอรี่ไปทำหล่นหายที่ไหน จึงอยากให้ทนายรณณรงค์ ช่วยพาไปติดต่อสอบถามจากทางกองสลากให้ด้วย

ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า วันจันทร์ที่ 25 ธ.ค. นี้ จะพาผู้เสียหายไปกองสลากเลย เพราะผู้เสียหายบอกว่ามีการเซ็นสลักหลังไว้ทั้ง 4 ใบ ถ้ามีคนเอาลอตเตอรี่มาขึ้นยังไงก็ต้องเจอ ถ้าเจอก็ต้องดำเนินคดีและว่ากันไปตามกฎหมาย แต่ต้องเจอก่อนนะว่ามีลายเซ็นผู้เสียหายจริงหรือไม่ ดีนะที่ผู้เสียหายยังไม่แจ้งความดำเนินคดี 2 เดือนที่ผ่านมา ถ้าเขามาขึ้นจนครบแล้ว เราไปเช็ก เราจะรู้เลยว่ามีลายเซ็นหรือไม่มี มีการขีดแก้หรือไม่ เพราะมีตั้ง 4 ใบ ส่วนเรื่องลอตเตอรี่ ถ้าผู้ใดถือลอตเตอรี่มาขึ้นเงินที่กองสลาก ทางกองสลากก็ต้องจ่ายเงินไป แม้จะมีการเซ็นสลักหลังก็ตาม การเซ็นสลักหลังนั้น เป็นเพียงแค่หลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของเท่านั้น ส่วนคนที่ถือลอตเตอรี่ไปขึ้นเงินที่กองสลาก สามารถขึ้นเงินได้เลย หากลอตเตอรี่ฉบับนั้นถูกรางวัลจริง และเป็นของจริง ทางกองสลากก็จะจ่ายให้โดยไม่มีเงื่อนไข