กระทรวงการคลัง ได้มีการสรุปมาตรการของขวัญปีใหม่ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ที่จะมอบให้แก่ประชาชนในปี 2567 ที่กำลังมาถึงนี้ โดยมี 19 กล่องของขวัญ ซึ่งรายละเอียด ดังต่อไปนี้

ธนาคารออมสิน

  • โครงการมีออม มีลุ้น กับสลากออมสิน 2 ปี ฉลองปีใหม่ (ธนาคารออมสิน) เพื่อส่งเสริมการออมผ่านสลากออมสิน สำหรับผู้ฝากสลากออมสินพิเศษ 2 ปี ทั้งแบบสลากและดิจิทัล ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2566–31 มกราคม 2567 วงเงินรางวัลพิเศษรวมจำนวน 111 ล้านบาท กำหนดการออกรางวัลจำนวน 1 ครั้ง สำหรับงวดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567
  • โครงการวินัยดี มีเงิน (ธนาคารออมสิน) เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับลูกค้าที่มีวินัยทางการเงิน สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อ วงเงินกู้ไม่เกิน 200,000 บาท ที่ปฏิบัติได้ตามเงื่อนไขของธนาคาร เช่น มีประวัติการชำระหนี้ดีไม่น้อยกว่า 3 ปี เป็นต้น จะได้รับเงินรายละ 500 บาท ซึ่งสามารถกดรับสิทธิผ่าน Application MyMo ได้ภายในวันที่ 15 มกราคม 2567

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)

  • โครงการสินเชื่อเสริมแกร่ง SME เกษตร เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเกษตร ช่วยเหลือลูกค้าเกษตรและผู้มีรายได้น้อยตลอดห่วงโซ่สินค้าเกษตร และสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เกษตรเข้าถึงแหล่งเงินทุน วงเงินกู้สูงสุดต่อรายไม่เกิน 100 ล้านบาท จะได้รับอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี ใน 2 ปีแรก และคงอัตราดอกเบี้ยในปีที่ 3–4  ที่ร้อยละ 4 ต่อปี หากปฏิบัติตามเงื่อนไขของธนาคาร และได้รับส่วนลดค่าวิเคราะห์ 10,000 บาท สำหรับลูกค้าที่เปิดบัญชีเงินกู้ใหม่ตั้งแต่วันที่ 1–31 มกราคม 2567 และมีวงเงินกู้ตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567
  • โครงการชำระดีมีโชค (ธ.ก.ส.) เพื่อให้ลูกค้าที่มีศักยภาพและความสามารถในการชำระหนี้ได้รับสิทธิการลุ้นรางวัล รวม 500 ล้านบาท จากการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มิถุนายน 2567
  • โครงการผลิตภัณฑ์สินเชื่อแทนคุณ (ธ.ก.ส.) เพื่อช่วยเหลือลูกค้าเกษตรกรผู้สูงอายุ (ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป) มีหนี้สินเป็นภาระหนัก ไม่สามารถชำระหนี้ได้ด้วยตนเอง และมีความประสงค์จะโอนทรัพย์สินและหนี้สินเพื่อให้ทายาทที่รับช่วงการประกอบอาชีพปิดชำระหนี้เดิม จะได้รับอัตราดอกเบี้ยและสิทธิประโยชน์ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567
  • โครงการสินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ (ธ.ก.ส.) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายหรือเป็นค่าลงทุนในการประกอบอาชีพการเกษตร อาชีพนอกภาคเกษตร หรืออาชีพที่มีลักษณะเป็นการลงทุนค้าขายเพื่อเลี้ยงชีพในครัวเรือน กรณีกู้เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 18 เดือน และกรณีกู้เพื่อเป็นค่าลงทุน อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 ปี ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 5 ปี ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567
  • โครงการสินเชื่อนวัตกรรมดี มีเงินทุน (ธ.ก.ส.) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายหรือเป็นค่าลงทุนในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม หรือเกี่ยวเนื่องกับเกษตรกรรม หรือประกอบอาชีพเกษตรกรรมในลักษณะ Smart Farmer กรณีกู้เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 18 เดือน และกรณีกู้เพื่อเป็นค่าลงทุน อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 ปี ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 15 ปี ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567
  • โครงการสินเชื่อพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรรองรับสถานการณ์ภัยแล้ง ปี 2566 (ธ.ก.ส.) เพื่อสนับสนุนเงินทุนและช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรให้มีแหล่งน้ำไว้ใช้ยามวิกฤติ วงเงินกู้รายละไม่เกิน 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MRR -1 ต่อปี ระยะเวลากู้ยืมสูงสุดไม่เกิน 10 ปี ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส)

  • โครงการของขวัญปีใหม่ 2567 เพื่อส่งเสริมวินัยทางการเงินสำหรับลูกค้าธนาคารอาคารสงเคราะห์ เพื่อส่งเสริมการมีวินัยทางการเงินในการผ่อนชำระเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย และเติมกำลังซื้อเพื่อให้เกิดการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจภายในประเทศช่วงเทศกาลปีใหม่ สำหรับการจ่ายชำระหนี้เงินกู้ผ่าน Application “GHB ALL GEN” โดยได้รับเงินรายละ 1,000 บาท ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566-กุมภาพันธ์ 2567 ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.)

  • มาตรการผ่อนดี มีให้  เพื่อลดภาระค่างวด เสริมสภาพคล่อง และเสริมสร้างวินัยทางการเงินให้กับลูกค้ากลุ่มเข้มแข็ง ของ ธพว. โดยได้รับการลดภาระค่างวดสูงสุดร้อยละ 40 นานสูงสุด 6 เดือน และสำหรับลูกหนี้ที่มีประวัติการผ่อนชำระดีจะได้รับชุดของขวัญสินค้า SMEs มูลค่า 1,000 บาท ซึ่งสามารถลงทะเบียนได้ถึงวันที่ 31 มกราคม 2567
  • มาตรการเติมทุน เสริมแกร่ง (ธพว.) เพื่อลดภาระค่าประเมินหลักประกันให้กับลูกค้ากลุ่มเข้มแข็งของ ธพว. โดยจะได้รับการยกเว้นค่าประเมินหลักประกันมูลค่าสูงสุด 30,000 บาท และโปรแกรมพัฒนายกระดับธุรกิจก้าวทันยุคดิจิทัลมูลค่ารวม 10,000 บาท และบริการปรึกษาแบบเจาะลึก Exclusive D-Coach เมื่อขอสินเชื่อและใช้วงเงินตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป ภายในเดือนมีนาคม 2567
  • มาตรการพัก ลด จบไว ลดภาระทางการเงิน (ธพว.) เพื่อเป็นการช่วยเหลือและปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้กับลูกค้ากลุ่มเปราะบาง โดยจะได้รับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด ซึ่งสามารถลงทะเบียนได้ถึงวันที่ 31 มกราคม 2567
  • มาตรการปิด ปรับ เปลี่ยน (SME 21) (ธพว.) เพื่อเป็นการช่วยเหลือและปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้กับลูกค้ากลุ่มลูกหนี้ SME 21 โดยจะได้รับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด ซึ่งสามารถลงทะเบียนได้ถึงวันที่ 31 มกราคม 2567

ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.)

  • โครงการผลิตภัณฑ์ที่สนับสนุนสินเชื่อ ESG เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการที่ขอสินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อม โดยได้รับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 2.99 ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 เดือน และได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมแรกเข้า (Front-end Fee) เป็นระยะเวลา 2 เดือน
  • โครงการผลิตภัณฑ์ที่สนับสนุนผู้ประกอบการที่เริ่มต้นการส่งออก (ธสน.) เพื่อลดภาระค่าธรรมเนียมแรกเข้า (Front-end Fee) ให้กับผู้ประกอบการที่เริ่มต้นการส่งออก เป็นระยะเวลา 2 เดือน

ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.)

  • โครงการสำหรับลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจ (5 จังหวัดชายแดนใต้) เพื่อสนับสนุนลูกค้ารายย่อยเข้าถึงแหล่งสินเชื่อที่อยู่อาศัย โดยการยกเว้นค่าประเมินหลักประกัน และเพื่อสนับสนุนลูกค้าธุรกิจที่เป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่ยื่นขอสินเชื่อในระยะเวลาดำเนินโครงการ โดยลูกค้ารายใหม่ที่ยื่นขอสินเชื่อแบบมีระยะเวลา (Long term) จะได้รับยกเว้นค่าจัดทำนิติกรรมสัญญา และลูกค้ารายเดิมที่ยื่นขอสินเชื่อแบบมีระยะเวลา (Long term) และมีประวัติการชำระหนี้ดี สามารถยื่นพักชำระเงินต้น  ชำระเฉพาะกำไร ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด ทั้งนี้ ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม–29 กุมภาพันธ์ 2567
  • โครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้รายย่อยและลูกค้าธุรกิจ (ธอท.) เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ให้กับกลุ่มลูกหนี้ด้อยคุณภาพ (Non-Performing Financing : NPFs) โดยสามารถตัดชำระเงินต้นสูงสุดร้อยละ 50 ของค่างวดที่ชำระ อัตรากำไรพิเศษ และส่วนลดเบี้ยปรับผิดนัดชำระ ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม–29 กุมภาพันธ์ 2567

บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)

  • โครงการยกเว้นค่าดำเนินการค้ำประกัน เพื่อลดภาระค่าดำเนินการค้ำประกันให้กับลูกค้า บสย. ที่อยู่ภายใต้โครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme (PGS 10) และโครงการค้ำประกันสินเชื่อรายสถาบันการเงิน Bilateral Phase 7 (BI 7) โดยจะได้รับการยกเว้นค่าดำเนินการค้ำประกันสินเชื่อ สำหรับ SMEs ที่ส่งคำขอค้ำประกันตั้งแต่วันที่ 1-31 มกราคม 2567
  • โครงการ บสย. พร้อมช่วย (บสย.) เพื่อลดภาระหนี้ให้กับลูกหนี้ของ บสย. โดยมีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ เช่น สามารถตัดเงินต้นได้ทั้งจำนวนของยอดชำระ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 ลดเงินต้นสูงสุดร้อยละ 15 เป็นต้น ทั้งนี้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ บสย. กำหนด ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567