เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่ห้องประชุมกรมคุมประพฤติ นางธารินี แสงสว่าง รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ และในฐานะโฆษกกรมคุมประพฤติ กล่าวสรุปปิดยอดสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมประพฤติ ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ในช่วงควบคุมเข้มข้น 7 วัน (29 ธ.ค.66 – 4 ม.ค.67) มีจำนวนทั้งสิ้น 1,150 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 1,100 คดี คิดเป็นร้อยละ 95.65 คดีขับรถประมาท 1 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.09 และคดีขับเสพ 49 คดี คิดเป็นร้อยละ 4.26 ยอดสะสม 7 วัน (วันที่ 29 ธ.ค.66 – 4 ม.ค.67) มีจำนวนทั้งสิ้น 8,102 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 7,864 คดี คิดเป็นร้อยละ 97.06 คดีขับรถประมาท 5 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.06 คดีขับเสพ 233 คดี คิดเป็นร้อยละ 2.88

โฆษกกรมคุมประพฤติ กล่าวอีกว่า ส่วนจังหวัดที่มีคดีขับรถขณะเมาสุราสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 469 คดี นครพนม 351 คดี และหนองคาย 328 คดี เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีขับรถขณะเมาสุราสะสมทั้ง 7 วันที่เข้าสู่ระบบงานคุมประพฤติในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี พ.ศ. 2566 มีจำนวน 8,567 คดี กับปี พ.ศ. 2567 จำนวน 7,864 คดี พบว่า คดีขับรถขณะเมาสุรา มีจำนวนลดลง 703 คดี คิดเป็นร้อยละ 8.2 นอกจากนี้ ในช่วง 7 วันที่มีการควบคุมเข้มงวด สำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ ได้ร่วมสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการให้บริการประชาชนตามสถานที่ต่างๆ โดยให้บริการประชาชนแจกน้ำดื่ม ผ้าเย็น เครื่องดื่ม อำนวยความสะดวกจราจรที่จุดบริการประชาชน ด่านชุมชน และด่านตรวจค้น รวมทั้งสิ้นจำนวน 765 จุด

โฆษกกรมคุมประพฤติ กล่าวด้วยว่า สำหรับปัจจัยแรกที่ทำให้คดีเมาขับลดลง ตนต้องขอบคุณสื่อสารมวลชนที่มีการร่วมกันประชาสัมพันธ์ ทำให้การเกิดอุบัติเหตุลดลงด้วย เพราะเรามีการประชาสัมพันธ์ในเรื่องของ 7 วันสำคัญ รวมถึงทุกหน่วยงานยังช่วยโหมโรงประชาสัมพันธ์ถึงการเมาแล้วควรอยู่บ้าน ไม่ออกมาขับรถ ทำให้สถิติคดีที่เข้ามาอยู่ในกระบวนการคุมความประพฤติลดลงเป็นอย่างมาก ปัจจัยที่สอง ตนเล็งเห็นว่าครอบครัวมีส่วนสำคัญอย่างมาก จะเห็นได้ว่าในวันที่ 31 ธ.ค.66 และวันที่ 1 ม.ค.67 เท่านั้นที่มีสถิติคดีสูง แต่หลังจากนั้นก็ผ่อนคลายลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ปัจจัยที่สาม มาตราการทางกฎหมายที่เข้มข้นขึ้น ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญต่อการบังคับใช้กฎหมาย และประการที่สี่ พี่น้องประชาชนทุกคนที่เฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่ก็ยังดูแลตัวเองและรับผิดชอบต่อสังคม.

ทั้งนี้ โฆษกกรมคุมประพฤติ กล่าวถึงเป้าหมายสถิติคดีเมาแล้วขับในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึง ว่า ตนหวังว่าสถิติคดีจะลดลงอย่างต่อเนื่องเหมือนกับเทศกาลปีใหม่ เพราะทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือกัน ประชาสัมพันธ์ป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุจากการดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากกรมคุมประพฤติถือว่าเป็นหน่วยงานปลายน้ำที่รับหน้าที่ในการดูแลผู้ที่ถูกศาลสั่งคุมประพฤติ ดังนั้น เมื่อเห็นยอดสถิติสรุปรวมจำนวนคดีลดลงในเทศกาลเฉลิมฉลอง จึงมั่นใจได้ว่าความร่วมมือร่วมใจของทุกท่านมีผลดีต่อสังคม.