ท่ามกลางการแข่งขันกันอย่างรุนแรงจากทั้งนายทุนยี่ปั๊วะในระบบเก่า แพลตฟอร์มขายสลากออนไลน์ เจ้ามือหวยใต้ดิน หรือแม้กระทั่งหวยออนไลน์จากเพื่อนบ้านทั้งหวยลาว หวยฮานอย ที่คนไทยกำลังติดกันงอมแงมอยู่ขณะนี้
เรื่องวุ่นๆหวยเมืองไทย
เริ่มจากสลากใบ ที่สำนักงานสลากฯ พิมพ์ขายมานานกว่า 80 ปี ปัจจุบันมีสลากใบอยู่ในระบบงวดละ 80 ล้านใบ แบ่งเป็นในกลุ่มผู้ค้าสลากโควตาถาวรประมาณ 30 ล้านใบ ที่เหลืออีก 50 ล้านใบ เป็นของซื้อจองรายย่อย ซึ่งมองอนาคตสลากใบ เชื่อว่าในปีนี้น่าจะมีโอกาสลดน้อยลงไปอีก ซึ่งเป็นไปตามแผนที่สำนักงานสลากฯ วางไว้ ที่พยายามเปลี่ยนจากคนขายสลากใบไปเป็นสลากดิจิทัลมากขึ้น เนื่องจากสลากใบ เป็นต้นเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาการขายเกินราคา กางเก็งกำไรไปขายต่อ จนคนขายตัวจริง และประชาชนชาวบ้านต้องซื้อสลากแพงใบละ 100 บาท มาตลอด
ในปีนี้สำนักงานสลากฯ จึงวางแผนให้ผู้มีสิทธิซื้อจองรายย่อยที่มีกว่า 1 แสนราย เข้ามาสมัครขายหวยดิจิทัลแทน เพื่อแลกกับการมีสลากไปขายมากขึ้น จากงวดละ 3 เล่ม เป็น 5 เล่ม ซึ่งหากมีคนเปลี่ยนใจสมัครดิจิทัลมากขึ้น สัดส่วนสลากใบของรายย่อยก็จะลดหลั่นหายไป ซึ่งคาดว่าจะมีหลายล้านใบ ยกตัวอย่างเช่น หากมีคนต้องการเปลี่ยนมาขายสลากดิจิทัล 5 ล้านใบ ก็ทำให้สลากใบเหลือจาก 50 ล้านใบ เหลือ 45 ล้านใบเป็นต้น
สลากดิจิทัลไปต่อแค่ไหน
ถัดมาไปดูตัวแปรสำคัญอย่างสลากดิจิทัล ที่ถือว่าเป็นพระเอกในการแก้ปัญหาสลากเกินราคา ซึ่งที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าการมีสลากดิจิทัลใบ 80 บาททำให้เสียงก่นด่า ร้องเรียนเกี่ยวกับสลากแพงลดน้อยลงไปมาก เพราะทำให้ประชาชนมีทางเลือกในการซื้อสลากที่ใบ 80 บาทได้จริง อีกทั้งยังได้รับการยอมรับจากนักเสี่ยงโชคมากขึ้นเรื่อยๆ จากที่เริ่มต้นขายที่งวดละ 5 ล้านใบ เป็นปัจจุบัน 22 ล้านใบ และยังขายหมดในทุกงวด แถมยังมีแนวโน้มจะเพิ่มสลากมากขึ้นอีก
ปีนี้สำนักงานสลากฯ จึงตั้งเป้าหมายเพิ่มให้ถึง 30 ล้านใบ โดยตั้งแต่งวด 16 ก.พ. นี้ จะเพิ่มเป็น 23 ล้านใบก่อน หลังจากนั้นทยอยเพิ่มเรื่อย ๆ ตามความเหมาะสม แถมหากงวดใดขายดี มีแนวโน้มหมดเร็ว สำนักงานสลากฯ ยังเตรียมปรับระบบให้เพิ่มสลากดิจิทัลได้ระหว่างงวดอีกด้วย ครั้งละ 1 ล้านใบ เพื่อตอบโจทย์คนขายที่ขายเก่ง และคนซื้อที่เผื่อได้เลขเด็ด เลขดัง มากลางงวด หรือในช่วงปลายงวด และก็เชื่อว่าจะเป็นที่ต้องการแน่นอน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องติดตามดูว่าการเพิ่มสลากไปเรื่อย ๆ จนถึง 30 ล้านใบ จะยังขายดี ขายหมดทุกงวดจริงหรือไม่? เพราะหลายงวดที่ผ่านมา ถ้าอยู่ในงวดกลางเดือน หรือไม่มีเลขเด็ดเลขดัง จำนวน 22 ล้านใบ ยังขายไม่ค่อยได้ ขายอืด ขายเกือบไม่หมด บางงวด เหลือจนวันสุดท้ายก่อนออกรางวัลไม่กี่ชั่วโมงถึงจะหมด แถมต้องลดราคาเหลือใบ 78-79 บาท ที่น่าตกใจกว่านั้น…คือ แพลตฟอร์มสลากออนไลน์ยักษ์ใหญ่อย่าง “มังกรฟ้า” ก็ประกาศยุติกิจการไปดื้อ ๆ เมื่อปลายปีที่แล้ว
เรื่องนี้สำนักงานสลากฯ ได้พยายามแก้ปัญหา โดยทำแผนส่งเสริมการขาย ให้คนขายสลากดิจิทัล สามารถเปิดแผงขายหวยดิจิทัลได้เองด้วย ซึ่งจะเริ่มในเดือน ก.พ.นี้
แนวทางต่อมา…ที่อาจเห็นสำนักงานสลากฯ เดินหน้าทำคือ การออกผลิตภัณฑ์สลากใหม่ แบบเลข 2 หลัก 3 หลัก หรือเอ็น 3 ซึ่งที่ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.ไปแล้วเมื่อปีก่อน ตามไทม์ไลน์จะกำหนดเริ่มออกมาขายได้ภายในปี 67 แต่จากการติดตามดูทรงในระยะหลัง สำนักงานสลากฯ ต้องพิจารณาให้ดีว่า สลากเอ็น 3 ยังตอบโจทย์ความต้องการของนักเสี่ยงโชคยุคใหม่หรือไม่ เพราะว่ากันตามจริงแล้ว สลากเอ็น 3 ถือเป็นโมเดลสลากรูปแบบที่ถูกคิดไว้นานแล้ว มีการดัดแปลงมาจากการทำหวยบนดิน ตั้งแต่ยุครัฐบาลทักษิณ เมื่อ 20 ปีก่อนโน่น ซึ่งก็ผ่านมายาวนาน
ปรับสูตรเอ็น3สู้ใต้ดิน
อีกเรื่องที่คนสนใจมากคือ สลากเลข 3 หลัก หรือเอ็น3 ที่ ครม.ไฟเขียวเห็นชอบไปแลเว และสำนักงานสลากฯยืนยันว่าไม่มีมวยล้มแน่นอน โดยอยู่ระหว่างการทำรายละเอียดประกาศของกฎหมาย คาดว่าจะสรุปได้โดยเร็ว แต่ก่อนขายจริง ก็จะเริ่มจากทดลองขายในระบบแซนด์บ็อกซ์ย่อยก่อน เพื่อดูความพร้อมของคนซื้อ คนขาย และระบบของสำนักงานสลากฯ เอง ว่ารับได้มากน้อยเพียงใด ติดขัดอะไรหรือเปล่า
ที่สำคัญ!! สลากเอ็น 3 จะตอบโจทย์การที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสู้กับเจ้ามือหวยใต้ดินได้หรือไม่? เพราะมีวัตถุประสงค์ที่ออกมา คือต้องการนำเงินจากใต้ดินขึ้นมาบนดินนำเข้าหลวงให้มากขึ้น และนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ดังนั้น รูปแบบของเอ็น 3 จึงคล้ายกับหวยใต้ดิน มีทั้งเต็ง มีทั้งโต๊ด แต่ที่แตกต่างคือ มีรางวัลสะสมได้ 1 งวดเป็นแรงจูงใจเท่านั้น
เรื่องนี้ต้องติดตามดูว่าเอ็น 3 จะไปสู้กับหวยใต้ดินได้มากน้อยเพียงใด เพราะต้องยอมรับว่ารูปแบบ “หวยใต้ดิน” วันนี้ได้เปลี่ยนไปมาก หลายเจ้าไม่ได้อิงผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลเดือนละ 2 ครั้ง เหมือนเดิม ๆ อีกแล้ว เพราะเจ้ามือหวยใต้ดินได้หันไปอิงรางวัลจากประเทศเพื่อนบ้านแทน เช่น หวยเวียดนาม หวยฮานอย ซึ่งขายได้ง่าย ขายได้ถี่ ไม่ต้องรอค้างนานเดือนละ 2 งวดเหมือนที่ผ่านมา ดังนั้นหากเอ็น3 ยังยึดแนวทางคล้ายกับหวยบนดินสมัย 20 ปีที่แล้ว ก็อาจเหนื่อยหน่อย ดีไม่ดีอาจไปแย่งตลาดแข่งกับสลากดิจิทัลและสลากใบ กันเอง หากเป็นแบบนี้รัฐบาลจะไม่ได้ประโยชน์อะไร แถมไม่อาจเก็บเงินเข้าคลังมากขึ้นด้วย
ออกผลิตภัณฑ์ใหม่
ฉะนั้น หากสำนักงานสลากฯ คิดจะออกสลากเอ็น 3 อาจจำเป็นต้องปรับรูปแบบใหม่ๆ ให้ทันสมัยกว่าเดิม ให้ถูกจริตนักเสี่ยงโชคมากขึ้น ซึ่งอาจต้องมีการเปลี่ยนนิยาม รูปแบบการออกรางวัลให้ถี่ขึ้น และการจ่ายเงินรางวัลใหม่ให้เร้าใจกว่าเดิม จึงเป็นการบ้านที่สำนักงานสลากฯ ต้องกลับไปทบทวน
หรือ…การมองทางเลือกอื่น ด้วยการออกผลิตภัณฑ์สลากใหม่ ๆ เพิ่มเติม นอกเหนือจากสลากใบ สลากดิจิทัล หรือสลากเลข 3 หลัก เพื่อเพิ่มทางเลือกในการแข่งขันกับหวยใต้ดินยุคใหม่ เพราะตาม พ.ร.บ.สำนักงานสลากฯ ฉบับใหม่ ให้อำนาจสำนักงานสลากฯ สามารถทำผลิตภัณฑ์สลากแบบใหม่ขึ้นมาได้เหมือนกับที่อื่นทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น สลากขูด สลากล็อตโต สลากกีฬา ซึ่งรูปแบบสลากที่ดูแล้วมีแนวโน้มกิดขึ้นในไทยมากสุด คือ สลากล็อตโต หรือหวยล็อตโต ที่เป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลก
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า สลากล็อตโต ถือเป็นสลากประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากสุดชนิดหนึ่งในโลก โดยรูปแบบการเล่นล็อตโต จะเปิดให้ผู้เล่นทุกคนมีโอกาส เลือกซื้อสลากหมายเลขใดก็ได้ หรือจำนวนเท่าใดก็ได้ตามความต้องการ และการได้เงินรางวัลแต่ละครั้ง จะมีสัดส่วนผันแปรไปตามยอดขายในแต่ละงวด หากงวดใดไม่มีผู้ถูกรางวัล เงินรางวัลทั้งหมด จะถูกยกไปทบในงวดต่อไป โดยมีรางวัลแจ็กพอตก้อนโต ดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาสนใจ และยังสามารถกำหนดวันออกรางวัลให้มีความถี่มากกว่าสลากฯทั่วไปได้อีกต่างหาก โดยสามารถออกรางวัลได้เดือนละ 2 ครั้ง
สลากดิจิทัลขายดี
อย่างไรก็ตามในปีที่ผ่านมา ผลการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลงวด 102 ล้านฉบับ ทั้งแบบใบ 80 ล้านฉบับ และแบบดิจิทัล 22 ล้านฉบับ ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สลากแบบดิจิทัล ที่ขายผ่านแอปพลิเคชัน เป๋าตัง ที่สามารถขายหมดก่อนวันออกรางวัลทุกงวด ซึ่งในงวดวันที่ 16 ก.พ.นี้ที่จะเพิ่มสลากฯ แบบดิจิทัล เป็น 23 ล้านฉบับ ก็น่าจะขายได้หมดเช่นกัน แต่ข้อสำคัญต้องดูว่าในช่วงนั้นมีเลขเด็ดมากน้อยเพียงใด ส่วนในเดือนถัดไป คือในเดือนมี.ค.67 หากเห็นว่างวดไหนสามารถขายสลากได้ดี ีหรืออาจหมดอย่างรวดเร็ว ทางสำนักงานสลากฯเองก็เพิ่มทางเลือกในการเติมสลากระหว่างงวด โดยให้ผู้ค้าที่มีความสามารถในการขายสามารถเพิ่มจำนวนขายสลากดิจิทัลได้เพิ่ม อีกทั้งยังตอบโจทย์สำหรับผู้ซื้อที่อาจอยากได้สลากบางเลขในช่วงกลางงวดด้วยอีกต่างหาก โดยจะเพิ่มครั้งละ 1 ล้านใบทีเดียว รวมไปถึงการเพิ่มรูปแบบการส่งเสริมขายสลากดิจิทัล โดยผู้ขายสามารถเดินขายสลากแบบแผงสลากบนแท็บเลต หรือสมาร์ทโฟนมือถือได้ โดยวิธีการดังกล่าวเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสลากดิจิทัลให้มากขึ้น เพราะมีลักษณะคล้ายกับการจำหน่ายสลากแบบมีแผงขายสลากทั่วไป
ในยุคที่โลกปรับเปลี่ยนหมุนเวียนไปอย่างรวดเร็ว เช่นนี้ ทุกคนต้องเร่งปรับตัวตาม ไม่เว้นแม้แต่สำนักงานสลาก ฯ ที่ต้องหาทางรับมือกับการแข่งขันใหม่ ทั้งจากหวยใต้ดินและหวยบนดิน หรือแม้แต่หวยจากประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังเป็นที่นิยม ซึ่งการออกผลิตภัณฑ์สลากใหม่ ดูเหมือนเป็นทางออกหนึ่งในการแก้ไข แต่ทว่าก็มีความจำเป็นที่ต้องประเมินกันอย่างรอบคอบเช่นกัน
เพราะ…หากออกผลิตภัณฑ์ใหม่มาแล้ว…แต่ขายไม่ออก !!อาจทำใหสำนักงานสลากฯ เสียรังวัด แถมยังไปส่งผลกระทบต่อแผนการออกสลากชนิดอื่นตามมาในอนาคต มิหนำซ้ำอาจเป็นการทุบหม้อข้าวตัวเองต่างหาก ดังนั้น ในปี 67 จึงเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ ที่สำนักงานสลากฯจะก้าวข้ามวิกฤติได้เพียงใด!!
เปิดช่องทำตลาดหวยดิจิทัล
“ลวรณ แสงสนิท” ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลระบุว่า ในปี 67 นี้ สำนักงานสลากฯจะเดินหน้าเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัลมากขึ้น หลังจากได้รับความนิยมจากผู้ซื้อและขายหมดในทุกงวด และยังช่วยแก้ปัญหาสลากเกินราคาได้ เพราะทำให้ประชาชนซื้อสลากใบ 80 บาทได้จริง โดยในเร็ว ๆ นี้ อาจเพิ่มอีก 1 ล้านใบ เป็น 23 ล้านใบ และจะเพิ่มต่อเนื่องให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด
ขณะเดียวกันจะพิจารณาเปิดให้กลุ่มผู้มีสิทธิซื้อจองสลากรายย่อย เข้ามาสมัครเป็นผู้ขายสลากดิจิทัลเพิ่มเติมด้วย หลังจากเปิดให้แสดงความจำนงเมื่อปลายปี 66 ซึ่งมีผู้สนใจสมัคร 30,000 คน โดยผู้ที่ตัดสินใจเปลี่ยนจากซื้อจองสลากใบจะได้รับสลากขายเพิ่มจากงวดละ 3 เล่ม หรือ 300 ใบ เพิ่มขึ้นเป็น 5 เล่ม หรือ 500 ใบ ซึ่งจะทำให้ปริมาณสลากดิจิทัลในระบบมีเพิ่มขึ้นอีก
อย่างไรก็ตามเมื่อมีสลากดิจิทัลเข้ามาจำหน่ายมากขึ้น สำนักงานสลากฯ จะพัฒนาระบบการจำหน่ายเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ค้านำไปจำหน่ายด้วยตัวเองได้ง่ายขึ้นผ่านสมาร์ทโฟน หรือแท็บเลต เปรียบเสมือนแผงสลากดิจิทัล ไม่ต้องรอให้ระบบขายผ่านแค่แอปเป๋าตังเพียงอย่างเดียว และต่อไปคนขายก็สามารถนำสลากไปเชียร์ขายหรือทำการตลาดต่าง ๆ เองได้ด้วย หลังจากได้มีการเพิ่มฟังก์ชั่นคิวอาร์โค้ดและการลดราคาให้ไปแล้ว คาดว่าจะพัฒนาระบบเสร็จช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. 67 นี้
ส่วนความคืบหน้าการจำหน่ายสลากเลข 3 หลัก หรือสลากเอ็น 3 อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียด และจะทดลองจำหน่ายผ่านระบบแซนด์บ็อกซ์ก่อนว่ามีจุดดีจุดแข็งอย่างไร สามารถแข่งขันกับหวยใต้ดินได้ตามวัตถุประสงค์หรือไม่ ก่อนตัดสินใจทำออกมาจำหน่ายอย่างจริงจัง ขณะที่การออกผลิตภัณฑ์สลากชนิดอื่นเพื่อสู้กับหวยต่างประเทศ หรือหวยเพื่อนบ้านนั้น ยังอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดว่าจะออกรายวัน รายสัปดาห์ ซึ่งต้องศึกษารายละเอียดและใช้เวลาพิจารณา เนื่องจากสถานการณ์การเสี่ยงโชคเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา
ทีมเศรษฐกิจ
