“ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์” แจ้งว่า ขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ดำเนินการเจาะเสาเข็ม ประมาณ 180 ต้น และงานฐานราก และเสาตอม่อ บริเวณเขื่อนลำตะคอง ซึ่งเป็นงานหนึ่งในสัญญาที่ 3-3 ช่วงบันไดม้า-ลำตะคอง ระยะทาง 26.1กิโลเมตร (กม.) ของโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) ไทย-จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว เป็นงานที่ใช้เวลานานเกือบ 2 ปี เนื่องจากการทำงานดังกล่าว ค่อนข้างลำบาก ต้องรอให้น้ำในเขื่อนลำตะคองลดลงก่อน จึงจะเข้าทำงานก่อสร้างได้ ซึ่งได้เริ่มงานประมาณเดือน เม.ย. 65 พอถึงช่วงน้ำมาเดือน ก.ย. 65-ม.ค. 66 ก็ไม่สามารถทำงานได้ จนกระทั่งต้นปี 66 น้ำเริ่มลดลง และเข้าเริ่มงานได้อีกครั้งช่วงประมาณเดือน ก.พ.-มี.ค. 66

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า ช่วงบันไดม้า-ลำตะคอง มีแนวเส้นทางรถไฟไฮสปีดที่อยู่ในบริเวณเขื่อนลำตะคองประมาณ 5.9 กม. โดยทำเป็นทางยกระดับ มีความสูงจากระดับพื้นดินถึงสันราง ประมาณ 10-20 เมตร สำหรับการทำงานในเขื่อนลำตะคองนั้น เมื่อถึงช่วงเวลาน้ำลดลง ผู้รับจ้างจะเร่งระดมเครื่องจักรเข้าไปรุมทำงานทันที ซึ่งเริ่มจากงานเจาะเสาเข็ม เมื่อแล้วเสร็จจะทำฐานราก และเสาตอม่อ ปัจจุบันขั้นตอนเหล่านี้เสร็จทั้งหมดแล้ว อยู่ระหว่างเริ่มงานการวางสะพานสำเร็จรูป (ทางวิ่ง) เมื่อวางทางวิ่งแล้วเสร็จ จะเข้าสู่ขั้นตอนการวางรางต่อไป โดยในส่วนของงานวางราง เป็นงานคนละสัญญากัน อยู่ในสัญญาที่ 2.3 งานวางราง และระบบการเดินรถ ระบบอาณัติสัญญาณ พร้อมขบวนรถ

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า หากพื้นที่ไม่มีน้ำท่วม ผู้รับจ้างจะสามารถทำงานได้ตามปกติ ไม่ยาก เพราะเป็นพื้นที่โล่ง ซึ่งหากน้ำมาผู้รับจ้างต้องเร่งนำเครื่องจักรต่างๆ ออกทั้งหมด อย่างไรก็ตามเวลานี้ในส่วนของงานวางทางวิ่ง ผู้รับจ้างกำลังเร่งดำเนินงานก่อนที่น้ำจะเริ่มมาในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. 67 ซึ่งขณะนี้ผู้รับจ้างอยู่ระหว่างหาแนวทางว่า หากน้ำมาจะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง โดยเฉพาะการขนส่งชิ้นส่วนสำเร็จรูป (เซกเมนต์) เข้ามาในพื้นที่ ซึ่งหากมีวิธีการที่สามารถทำได้ เมื่อน้ำมาก็จะไม่เป็นปัญหาในการทำงาน แต่หากไม่มีวิธีใดที่ทำได้ ในช่วงน้ำมาก็ต้องหยุดการทำงานเหมือนกับช่วงที่เจาะเสาเข็ม ทำฐานราก และตอม่อ อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ยังมีความโชคดีที่น้ำค่อนข้างน้อย บางพื้นที่แห้งจนไม่มีน้ำเลย 

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า เมื่อปี 66 เนื่องจากฝนตกน้อย น้ำจึงไม่ค่อยเต็มเขื่อน ส่งผลให้ในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. 66 ที่ปกติน้ำจะสูง ก็ไม่สูง บางพื้นที่ไม่มีน้ำเลย ทำให้สามารถเข้าทำงานได้ สำหรับในปี 67 คงต้องติดตามว่าช่วงเดือน ก.ย. ซึ่งเป็นช่วงฝนตก จะตกมากหรือน้อย ถ้าตกเยอะ น้ำก็จะเพิ่มขึ้นเร็ว น้ำในเขื่อนจึงเป็นตัวแปรสำคัญในการทำงาน อย่างไรก็ตาม คาดว่างานวางทางวิ่งตามแนวเส้นทางรถไฟไฮสปีดที่อยู่ในบริเวณเขื่อนลำตะคองประมาณ 5.9 กม. จะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 68 ส่วนภาพรวมงานสัญญาที่ 3-3 ปัจจุบันมีความคืบหน้าประมาณ 43.87% คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งสัญญาประมาณเดือน ม.ค. 69

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เมื่อโครงการรถไฟไฮสปีด ไทย-จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา เปิดให้บริการ เส้นทางรถไฟไฮสปีดในช่วงเขื่อนลำตะคอง ประมาณ 5.9 กม. จะเป็นอีกหนึ่งช่วงของเส้นทางที่ผู้โดยสารจะได้ชื่นชมความสวยงามของวิวทิวทัศน์ ที่มีความเขียวขจีของต้นไม้ใบหญ้า ภูเขา และกังหันลมขนาดยักษ์ รวมทั้งยังได้เห็นความสวยงามของเขื่อนลำตะคองมุมสูง และทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 6 สายบางปะอิน-นครราชสีมาด้วย ทั้งนี้ รถไฟไฮสปีดจะใช้ระยะเวลาในการเดินรถผ่านช่วงเขื่อนลำตะคองประมาณ 2 นาที.