สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ว่านายโฟลเคอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชอาร์ซี) เกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมา ที่ล่วงเลยมานานกว่า 3 ปี นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 อยู่ในภาวะที่ไม่แน่นอน “เป็นฝันร้ายที่ไม่มีวันสิ้นสุด”


ความขัดแย้งด้านอาวุธระหว่างกองทัพเมียนมากับกองกำลังชาติพันธุ์ ยังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ความเจ็บปวดและความโหดร้ายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตกอยู่กับประชาชน


ทั้งนี้ ข้อมูลจากแหล่งข่าวหลายกระแสที่เชื่อถือได้ เปิดเผยกับยูเอ็น ว่าการสู้รบและเหตุการณ์รุนแรงซึ่งเกิดขึ้น นับตั้งแต่กองทัพเมียนมายึดอำนาจครั้งนี้ คร่าชีวิตประชาชนแล้ว 4,603 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็กอย่างน้อย 490 ราย และผู้หญิง 659 ราย อย่างไรก็ตาม ทุกฝ่ายเชื่อว่า สถิติที่แท้จริงน่าจะมากกว่านั้น


ขณะที่นับตั้งแต่เดือนม.ค. ปีนี้ มีการยืนยันว่า การเสียชีวิตของพลเรือนอย่างน้อย 145 ราย จากอย่างน้อย 232 ราย เป็นผลจากการโจมตีด้วยปืนใหญ่ และปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของกองทัพเมียนมา.

เครดิตภาพ : AFP