เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ที่ร้านโซลบาร์ จ.เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล นำโดย นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ สส.พรรคก้าวไกลในพื้นที่ภาคเหนือ ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวทีมก้าวไกลสู้ไฟป่า โดยนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงความสำคัญในการจัดการไฟป่า โดยนำเสนอแผนภาพแสดงให้เห็นว่าจุดเกิดไฟ Hotspot ในพื้นที่ป่าเป็นสัดส่วนที่มากที่สุด แต่หากเปรียบเทียบจุดไฟ Hotspot ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ เพราะพบว่ามีทั้งไฟป่า การเผาในพื้นที่โล่ง และการเผาในพื้นที่เกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย ซึ่งหากย้อนดูสถิติย้อนหลังตั้งแต่ปี 2562 ที่ประเทศไทยเริ่มประกาศวาระฝุ่นพิษเป็นวาระแห่งชาติ เริ่มมีการควบคุมภายในประเทศ แต่ก็จะพบว่ามีการส่งออกสินค้าทางการเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นการจัดการปัญหาเพียงภายในประเทศนั้นสำคัญ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด และไม่เพียงพอต่อการแก้ไขปัญหา

นายชัยธวัช กล่าวว่า จากการประชุมเพื่อรับฟังปัญหาและการแลกเปลี่ยนข้อมูลของผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชนที่เชียงใหม่เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา ก็ได้ข้อสรุปว่าการจัดการไฟป่าโดยการสั่งการจากส่วนกลางโดยการห้ามเผาโดยสิ้นเชิง อาจจะไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ได้ผล ในขณะเดียวกัน การประกาศช่วงเวลาห้ามเผาเด็ดขาด ก็อาจจะไปกระตุ้นให้เกิดการเผาอย่างพร้อมเพรียงกันอย่างหนักในช่วงเวลาก่อนการห้ามเผา

นายชัยธวัช กล่าวว่า ดังนั้นข้อเสนอของหน่วยงานรัฐและภาคประชาสังคมเชียงใหม่ เสนอว่าให้มีการอนุญาตเผาแบบควบคุมและวางแผนได้ เช่น เชียงใหม่โมเดล มีการลงทะเบียนเพื่อขออนุญาตเผาหากมีความจำเป็น และมีการควบคุมจัดการได้ ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษในปีนี้ สำหรับโครงการ “ก้าวไกลสู้ไฟป่า” มีจุดประสงค์คือการสนับสนุนหน่วยงานราชการ ภาคประชาสังคม อาสาสมัคร คนทำงานเพื่อจัดการไฟป่า เพื่อสนับสนุน ทดลอง ติดตามผล เพื่อพัฒนาเป็นแนวนโยบายที่ชัดเจน มีประสิทธิภาพต่อไปในอนาคต

ขณะที่นายเดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต (Think Forward Center) เปิดเผยสถิติฝุ่นพิษ PM2.5 พบว่ามีสถิติในช่วงเวลาเดียวกันของปีนี้ ดีกว่าปีที่ผ่านมา แต่อาจมาจากความแตกต่างของสภาพอากาศ ที่ความร้อนแล้งจะมาช้ากว่าปีที่แล้วประมาณ 3 สัปดาห์ พรรคก้าวไกล โดย 12 สส. ในเขตจังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ จ.ตาก ลำพูน ลำปาง เชียงใหม่ และเชียงราย จึงเริ่มทำโครงการดังกล่าว โดยการกำหนดเขตพื้นที่รับผิดชอบในแต่ละเขต โดยมีพื้นที่รวมทั้งหมด 1.2 ล้านไร่ และมีการกำหนดพื้นที่เทียบเคียง เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ของการบริหารจัดการไฟป่า อย่างไรก็ตาม พื้นที่ 1.2 ล้านไร่ ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับพื้นที่ทั้งหมดที่ประสบปัญหาไฟป่า แต่เป็นพื้นที่ที่ทาง สส.พรรคก้าวไกล มีความสามารถรับผิดชอบและติดตาม สังเกตการณ์ บันทึกข้อมูล และติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ได้.