เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 3 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีแก้ปัญหาการเผาป่า พื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ว่า ได้รับรายงานจากผู้ว่าราชการว่า มีการประสานงานเพื่อการแก้ปัญหา มีอุปกรณ์จากส่วนกลางเข้าไปช่วยทั้งเฮลิคอปเตอร์ เจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ดับเพลิงต่างๆ ซึ่งในบางวันสามารถควบคุมได้เรียบร้อย แต่ก็เกิดขึ้นมาอีกแบบนี้ จึงต้องมีการขอความร่วมมือ ร่วมกับการบังคับใช้กฎหมาย เพราะตอนนี้เข้าสู่หน้าร้อน แห้งแล้งจึงยิ่งมีความเสี่ยงในการเกิดไฟป่ามากขึ้น ทั้งนี้ในส่วนของเฮลิคอปเตอร์ได้มีการบูรณาการกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อยู่แล้ว
เมื่อถามถึงกรณีถูกตัดงบประมาณไม่ได้รับการจัดสรรเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและทำเรื่องอุทธรณ์ขึ้นไปในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ต้องมีการชี้แจงด้วยเหตุด้วยผล เพราะปัจจุบันนี้ชัดเจนว่าเรามีเฮลิคอปเตอร์เพียง 4 ลำเท่านั้น แต่ถ้าจะให้เพียงพอครอบคลุมการทำงานจะต้องมีถึง 6 ลำ จึงได้จัดทำแผนในการเสนอของบประมาณจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์จำนวนทั้งสิ้น 2 ลำ ลำละ 400-500 ล้านบาท แบ่งเป็นปีงบประมาณ 67 จำนวน 1 ลำ ปี 68 อีก 1 ลำ
“นายกรัฐมนตรีมีการกำชับอยู่เสมอว่าต้องเร่งหาวิธีการในการจัดหาเครื่องมืออุปกรณ์ในการควบคุมไฟป่า ปัญหาหมอกควัน ดังนั้นจึงต้องขอความเมตตาจากคณะอนุกรรมาธิการให้ช่วยพิจารณา เพราะเฮลิคอปเตอร์นั้นความสำคัญไม่ได้ใช้เฉพาะดับไฟป่าเท่านั้นแต่ยังสามารถใช้เป็นพาหนะในการลำเลียงผู้บาดเจ็บ การขนย้ายเจ้าหน้าที่ ชาวบ้าน แม้กระทั่งสัตว์ป่าในกรณีเกิดภัยพิบัติต่างๆได้” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ส่วนเหตุผลที่มีการตัดงบฯ จัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ออกนั้น ตนไม่ได้ถามเนื่องจากไม่ได้อยู่ในที่ประชุมแต่ทราบว่าถึงขั้นโหวตตัดออกเลย ซึ่งตนได้มีการโทรศัพท์ไปเรียนนายกฯ และโทรฯหาหลักๆ คือพรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทย ชี้แจงทั้งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์, นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.การต่างประเทศ ในฐานะรองคณะกรรมาธิการงบประมาณฯ และแกนนำพรรคพลังประชารัฐ เช่น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส ก็ไม่รู้เรื่องแต่บอกว่าจะไปดูเรื่องให้
นายอนุทิน กล่าวว่า การยื่นอุทธรณ์ครั้งนี้ต้องเอาเหตุผลมาหักล้างกัน บางคนบอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวหรือไม่ ซึ่งตนก็คิดว่าไม่ใช่เพราะการทำงานของตน ที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหากับใคร ให้การช่วยเหลือสนับสนุน ทำงานร่วมกันกับทุกพรรคทุกฝ่ายได้อย่างดี
