สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ ประเทศเฮติ เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ว่า การโจมตีช่วงกลางคืนที่ผ่านมา เป็นส่วนหนึ่งของความรุนแรงครั้งใหม่ในกรุงปอร์โตแปรงซ์ ซึ่งกลุ่มติดอาวุธควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมือง และสร้างความเสียหาย นับตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่า พวกเขาต้องการขับไล่นายกรัฐมนตรีอาเรียล อ็องรี ผู้นำเฮติ

ด้านนายปิแอร์ เอสเปรานซ์ จากเครือข่ายแห่งชาติเพื่อการปกป้องสิทธิมนุษยชน (อาร์เอ็นดีดีเอช) กล่าวว่า จากผู้ต้องขังประมาณ 3,800 คน ของทัณฑสถานแห่งชาติเฮติ มีนักโทษราว 100 คนเท่านั้น ที่ยังอยู่ภายในเรือนจำแห่งนี้ หลังแก๊งอาชญากรเปิดฉากโจมตี เมื่อช่วงคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ทว่าเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีนักโทษเสียชีวิตนอกเรือนจำ เป็นจำนวนมากเช่นกัน

รัฐบาลเฮติ ระบุในแถลงการณ์ว่า ตำรวจพยายามขับไล่แก๊งอาชญากรที่โจมตีทัณฑสถานแห่งชาติ และเรือนจำอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งการโจมตีเหล่านี้ส่งผลให้มี “ผู้บาดเจ็บจำนวนมาก” ทั้งในกลุ่มเจ้าหน้าที่เรือนจำ และนักโทษ

ขณะที่หนังสือพิมพ์รายวัน “เลอ นูเวลลิสต์” ของเฮติ รายงานว่า แก๊งอาชญากรสอดแนมเรือนจำ ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ก่อนลงมือก่อเหตุในคืนวันเสาร์ ส่วนเอสเปรานซ์ กล่าวเสริมว่า ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเรือนจำแห่งที่สอง ซึ่งมีผู้ต้องขัง 1,450 คน มีนักโทษหลบหนีออกไปได้เท่าใด

ทั้งนี้ อ็องรี ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนเคนยา พยายามรวบรวมความช่วยเหลือสำหรับภารกิจสนับสนุนตำรวจระหว่างประเทศ ซึ่งรัฐบาลไนโรบีตกลงที่จะเป็นผู้นำ โดยเขาได้ลงนามในข้อตกลงการส่งกำลังทหาร กับประธานาธิบดีวิลเลียม รูโต ผู้นำเคนยา เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

แม้รูโตกล่าวว่า เขากับอ็องรี หารือเกี่ยวกับขั้นตอนต่อไป เพื่อทำให้สามารถติดตามการส่งกองกำลังได้อย่างรวดเร็ว แต่มันยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะขัดแย้งคำตัดสินของศาลเคนยา เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมาหรือไม่.

เครดิตภาพ : AFP