เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ที่สนามฝึกกองทัพเรือ หมายเลข 15 หาดยาว แสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวถึงกรณีกองทัพเรือ ยื่นอุทธรณ์ต่อ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2567 ในโครงการจัดหาเรือฟริเกต 17,000 ล้านบาท ว่า อยู่ที่คณะกรรมาธิการฯ พิจารณา ส่วนประโยคที่เคยกล่าวในคณะกรรมาธิการฯ ว่าขอทหารเรือใช้ของดี ยอมกินมาม่าแทน นั้น ผบ.ทร. กล่าวว่า ตนอยากจะบอกให้รู้ว่า ถ้าใครรู้จักกองทัพเรือ ยุทธโธปกรณ์กองทัพเรือ ซึ่งมีทั้งเครื่องบิน เรือ มนุษย์กบ นาวิกโยธิน เรือใต้น้ำ และมีอะไรอีกมากมาย เราได้งบประมาณก้อนเดียว แต่เรามีของที่ต้องซื้อจำนวนมาก เพื่อให้กองทัพเรือมีความพร้อม กว่าจะวนมารอบหนึ่งได้เรือ ปีหน้าก็ต้องเป็นคิวเครื่องบิน อีกปีก็จะเป็นคิวอย่างอื่นต่อไป เราก็อยากให้เดินหน้าตามวงรอบที่เราคิดกันไว้ตามยุทธศาสตร์เท่านั้น

เมื่อถามว่า จำนวนเรือฟริเกตของกองทัพเรือที่ลดลง มีความจำเป็นต้องจัดหาใช่หรือไม่ ผบ.ทร. กล่าวว่า ผลการพิจารณาสมัย พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ อดีต ผบ.ทร. ได้พิจารณาแล้วว่า มีความจำเป็น ซึ่งขณะนี้เหลืออยู่เพียง 4 ลำเท่านั้น และในปี 2569 ก็จะเหลือเพียง 3 ลำ

เมื่อถามต่อว่าการยื่นอุทธรณ์ในวันนี้ หากคณะกรรมาธิการฯ ไม่อนุมัติจะทำอย่างไร ผบ.ทร. กล่าวว่า “ผมกำลังให้ทางปลัดบัญชีกองทัพเรือ สำนักงบประมาณกองทัพเรือ พิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อไป ซึ่งกองทัพเรือจะแก้ปัญหาให้ดีที่สุด”

เมื่อถามย้ำว่าได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ถึงความจำเป็นของกองทัพเรืออย่างไร ผบ.ทร. กล่าวว่า “ตามเรื่องที่เสนอขึ้นมาผ่านกรรมาธิการ สส. และ สว. ซึ่งได้อธิบายไปแล้ว ผมยอมรับหมดทุกเรื่อง รัฐบาลอาจมีความจำเป็นในด้านต่างๆ ก็สุดแต่รัฐบาล”

เมื่อถามอีกว่าถ้าไม่ได้เรือฟริเกต จะส่งผลต่อกองทัพเรือในการป้องกันประเทศไทยหรือไม่ ผบ.ทร. กล่าวว่า ถ้ายังไม่มีอะไร ก็ไม่ว่าอะไร แต่ถ้ามีอะไรแล้วเราไม่พร้อม เราจะนำสิ่งที่มีเหลืออยู่ ใช้ให้ดีที่สุด.