เมื่อวันที่ 5 มี.ค. นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า หลังจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีมติเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 พิพากษายกฟ้องคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพวกรวม 6 คน ในข้อกล่าวหาเอื้อประโยชน์ในการจัดจ้างโรดโชว์โครงการ ‘สร้างอนาคตไทย Thailand 2020’ พร้อมสั่งเพิกถอนหมายจับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้น เป็นสัญญาณชัดเจนว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางกลับประเทศไทย ตามแนวทางเดียวกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้นำร่องมาล่วงหน้าแล้ว ซึ่งทำได้ไม่ยาก ถ้าเปรียบเทียบโทษ ระหว่างของนายทักษิณ กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งแตกต่างกันครึ่งต่อครึ่ง

นายเทพไท ระบุอีกว่า นายทักษิณถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสิน 3 คดี รวมโทษ 10 ปี และศาลฎีกาฯ มีคำสั่งนับโทษสุทธิเหลือ 8 ปี ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกศาลฯ ตัดสินโทษจำคุก 5 ปี ในคดีโครงการรับจำนำข้าว เมื่อนายทักษิณ ได้รับโทษจริงเพียง 1 ปี จะต้องลุ้นต่อไปว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะรับโทษจำคุกจริงกี่ปี และนายทักษิณไม่เคยเข้าเรือนจำแม้แต่วันเดียว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ต้องมีหนทางไม่ต้องเข้าเรือนจำแม้แต่วันเดียวเช่นกัน ยิ่งสถานการณ์ตอนนี้ นายทักษิณได้พักโทษที่บ้านจันทร์ส่องหล้าแล้ว ยิ่งเป็นการสะดวกในการสั่งการและเตรียมการต้อนรับการกลับมาประเทศไทยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์

“แต่ถ้าให้สะดวกและราบรื่นที่สุด คุณยิ่งลักษณ์น่าจะกลับมาหลังจากคุณทักษิณพ้นโทษแล้ว คือหลังวันที่ 22 ส.ค. 2567 เพราะจะทำให้คุณทักษิณ มีความคล่องตัว และสะดวกในการประสานงาน สั่งการ และเรียกบุคคลหนึ่งบุคคลใดมาพบ เพื่อจัดทำกฎระเบียบรองรับคุณยิ่งลักษณ์ จะได้ไม่ตกเป็นเป้าสายตาของสื่อมวลชนและสังคมที่กำลังจับตาอย่างไม่กะพริบ อย่างไรก็ตาม เมื่อดูบริบททั้งหมดแล้ว ฟันธงได้เลยว่า คุณยิ่งลักษณ์กลับประเทศไทย หลังวันที่ 22 ส.ค. 2567 ทิ้งช่วงไว้สักระยะหนึ่ง เพื่อไม่ให้ดูน่าเกลียดจนเกินไป และจะไม่ถูกจำคุกแม้แต่วันเดียว แต่จะใช้แนวทางไหนอย่างไร ต้องจับตาดูกันต่อไป” นายเทพไท ระบุ