เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2566 “พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร” ได้ออกมาไลฟ์สดผ่านช่องยูทูบส่วนตัว โดยร่วมแสดงความเห็นถึงกรณีข่าวศึกชิงพื้นที่ ส.ป.ก และเขาใหญ่ โดยทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้มีการตรวจสอบพื้นที่พบว่า มีหมุดเข้ามาปักจำนวนมาก และมีการถอนหมุดออกกว่า 27 จุด ทำให้ทาง ส.ป.ก. เปิดศึกปมเขาใหญ่ ลุยแจ้งจับ “ชัยวัฒน์” ถอนทรัพย์สินของ ส.ป.ก. ออกไป ส่อพฤติการณ์ผิดกฎหมายอาญาชัดเจน

โดย พล.ต.ท.เรวัช” เผยว่า “ทำไมอยู่เฉย ๆ แล้วเข้าไปปักล่ะ และคนที่คุณไปปัก และแถมออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. ให้เขา ตรวจสอบแล้วเป็นเจ้าของโรงเเรม เป็นนักธุรกิจ ไม่ใช่เกษตรกรยากจน”

“ผมเป็นชาวบ้านคนหนึ่ง ผมก็คงไม่ยอมจะให้ที่ ซึ่งเป็นสภาพป่าของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไปออกเอกสารสิทธิให้ใครก็ไม่รู้ มีเส้นมีสาย ไม่ใช่ชาวบ้านในพื้นที่ที่ยากจนด้วย เพราะงั้นเราต้องมารวมตัวกันเพื่อต่อต้านอีกที ให้ทำเหมือนตอนเดวิด”

“ผมรู้ว่าทุกคนเป็นห่วง ผอ.ชัยวัฒน์ ที่ไปถูกแจ้งความเรื่องไปถอนหลัก ส.ป.ก. ที่เขาใหญ่ ก็จะขอมาพูดเรื่องนี้นะครับ เมื่อเช้าก็ได้โทรศัพท์พูดคุยกับผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่านนะครับ ทาง ส.ป.ก. ก็ได้ดำเนินการแจ้งความพนักงานสอบสวน สภ.หมูสี ให้ดำเนินคดีอาญาของ ผอ.ชัยวัฒน์ กับพรรคพวก มีหัวหน้าอุทยานเขาใหญ่ และลูกน้องอีกกี่คนก็ไม่รู้นะครับ ไปถอนหลักหมุด ส.ป.ก.”

“เขาบอกว่าตรงนั้นมันปักไม่ได้ ขั้นตอนของการจะไปปักหมุด ส.ป.ก. เขามีระเบียบ เขามีขั้นตอนอยู่ พื้นที่ไหนเป็นป่า หรือพื้นที่ไหนยังเขียนแผนที่ไม่ชัดเจน มันก็ต้องประสานอุทยานด้วยว่า ที่ผมจะไปปักเขตของอุทยานด้วยไหม เขาได้ประสานหรือเปล่า ทำไมอยู่เฉย ๆ แล้วเขาไปปักเลย และคนที่คุณไปปักเนี่ย แถมออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก ให้เขา ตรวจสอบแล้วเขาเป็นเจ้าของโรงเเรม และเป็นนักธุรกิจ ไม่ใช่เกษตรกรยากจน อันนี้เขาจะทุจริตในหน้าที่หรือไม่ ก็ต้องไปสอบกัน ต้องมีตัวที่ได้ไปรับโทษว่า คุณไปปักได้ยังไง ที่เป็นแผนที่พื้นที่ในป่า แหล่งต้นน้ำลำธาร”