เมื่อวันที่ 4 เม.ย. นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้กล่าวถึงข้อเท็จจริง ถึงกรณีที่ปรากฏข่าวว่าการดำเนินโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกบริเวณหนองตาเหี่ยม ตำบลอรัญญิก อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ว่าเป็นโครงการที่ฮุบที่ดินสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ และยึดการบริหารจัดการให้เป็นของคณะกรรมการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ ทำให้ท้องถิ่นไม่สามารถจัดการให้ประชาชนสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ได้ ว่าโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก เป็นโครงการที่ได้ดำเนินการตามกฎหมายถูกต้องครบถ้วน ตามลำดับ โดยโครงการนี้ เริ่มต้นจากการวางและจัดทำผังเมืองรวมเมืองพิษณุโลก ซึ่งได้มีการจัดทำผังเมืองโดยกำหนดให้มีถนนสายต่าง ๆ ในโครงการไว้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 ซึ่งมีถนนสาย ฉ ที่ผ่านที่สาธารณะและที่ราชพัสดุรวมอยู่ด้วย (ในขณะนั้นใช้เป็นทัณฑสถานเปิดอรัญญิก และได้ยุบเลิกไปในปีพ.ศ. 2548)

หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2549 จังหวัดพิษณุโลกได้มีการจัดสร้างสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ บนที่ดินสาธารณะและที่ราชพัสดุดังกล่าว และเปิดสวนเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2556 ต่อมาในปี พ.ศ. 2558 ได้มีการจัดทำโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวและพื้นที่โดยรอบ เพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินตาบอดให้ประชาชนและพัฒนาระบบโครงข่ายถนนตามผังเมืองสาย ฉ และถนนสายรองต่าง ๆ โดยคณะกรรมการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกได้เห็นชอบโครงการเมื่อวันที่ 19 พ.ย.2558 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2558 และมีมติเห็นชอบการขยายเขตดำเนินโครงการเมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2564 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 21 พ.ย 2564 มีจำนวนแปลงที่ดินที่เข้าร่วม 589 แปลง รวมพื้นที่ 1,451 ไร่เศษ

นายพงศ์รัตน์ กล่าวต่อว่ามีการประชุมรับฟังความคิดเห็นตามระเบียบสำนักนายกฯ พ.ศ. 2548 เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2563 ซึ่งผลสรุปจากแบบสอบถามประชาชนจำนวน 1,364 ชุด เห็นด้วยกับโครงการ 88.30% กรมโยธาธิการและผังเมืองได้ดำเนินการตาม ม.55 แห่งพระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ พ.ศ. 2547 เนื่องจากในโครงการมีแปลงที่ดินเป็นของรัฐอยู่ในพื้นที่โครงการด้วย ซึ่งในการจัดรูปแปลงที่ดินของรัฐนั้นได้มีการจัดรูปแปลงใหม่ให้ใช้ประโยชน์ได้ดีขึ้น และเพิ่มพื้นที่ที่เป็นสวนสาธารณะฯ ให้มากขึ้นจากเดิม 150 ไร่ เป็น 155-2-36 ไร่ และได้นำเสนอคณะกรรมการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ (ส่วนกลาง) พิจารณา ซึ่งคณะกรรมการจัดรูปที่ดินฯ ได้เห็นชอบเมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2564 และประกาศเรื่องที่ดินสาธารณประโยชน์ในโครงการฯ ในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2565 และเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2565 ในสมัยรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

นายพงศ์รัตน์ กล่าวอีกว่า โครงการนี้ไม่ได้ฮุบที่สาธารณะแต่อย่างใด แต่เป็นการจัดรูปแปลงใหม่ให้กับ แปลงที่ดินที่เข้าร่วมโครงการ ทำให้ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ มีพื้นที่เพิ่มมากขึ้น และ ทำให้ประชาชนสามารถเข้าใช้ประโยชน์ในสวนสาธารณะ ได้ดีขึ้น อีกทั้งยัง สามารถแก้ไขปัญหาที่ดินตาบอดและที่ดินรูปแปลงที่ไม่เหมาะสมอีกจำนวน 589 แปลง ทั้งนี้ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ ยังคงเป็นที่ราชพัสดุและที่สาธารณะที่มีเทศบาลนครพิษณุโลกเป็นผู้ดูแลบริหารจัดการ ให้ประชาชนได้มาพักผ่อน ออกกำลังกายได้เป็นปกติเหมือนเดิมทุกประการ มิได้มีการยึดการบริหารจัดการเป็นของคณะกรรมการจัดรูปที่ดินฯ แต่อย่างใด

ทั้งนี้ กรมฯ ได้มีการขับเคลื่อนโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ ทั่วประเทศโดยดำเนินการเสร็จแล้วจำนวน 17 โครงการ ใน 16 จังหวัด และอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 51 โครงการ ใน 43 จังหวัด ส่งผลให้ที่ดินได้รับการพัฒนารวม 18,427 ไร่ คิดเป็นมูลค่าที่ดินเพิ่มขึ้นกว่า 49,000 ล้านบาท และมีถนนสาธารณะโดยที่ภาครัฐไม่ต้องเวนคืนกว่า 2,100 ไร่ หรือความยาวประมาณ 207 กิโลเมตร ประหยัดงบประมาณภาครัฐในการเวนคืนที่ดินมาก่อสร้างถนนได้ราว 2,700 ล้านบาท ส่งผลให้โครงสร้างพื้นฐานของเมืองได้รับการพัฒนาโดยการมีส่วนร่วมของประชาชน