จากที่นักเคลื่อนไหวทางการเมือง หรือผู้ต้องหาคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 “ตะวัน” และ “แฟรงค์” ที่ก่อเหตุป่วนขบวนเสด็จ จนทำให้ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ พร้อมถูกออกหมายจับในเวลาต่อมา ก่อนจะประท้วงด้วยการอดอาหารอยู่ในโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ. 2567 ปัจจุบันเป็นเวลา 22 วันแล้ว

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพจเฟซบุ๊กของตะวัน ได้ออกมาอัปเดตอาการหลังจากประกาศประท้วงอดอาหารและน้ำดื่ม โดยเปิดเผยว่า

“บันทึกเยี่ยมตะวันที่ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ วันที่ 5 มีนาคม 2567 วันนี้ตะวันบอกว่าเลือดกำเดาไหล และหมอมาแจ้งว่า ค่าโพแทสเซียมอยู่ที่ 3.3 หมออยากให้กินยาโพแทสเซียม เพื่อรักษาอาการโพแทสเซียมใกล้จะต่ำ แต่ตะวันปฏิเสธไม่รับยาและปฏิเสธการรักษา การที่ระดับโพแทสเซียมเริ่มจะต่ำ อาจจะมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ปวดเกร็ง เหน็บชา หากระดับโพแทสเซียมในเลือดต่ำลงมาก อาจจะมีอาการรุนแรงถึงขั้นมีภาวะหัวใจล้มเหลวได้ อาจมีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ”

“วันนี้ตะวันอ้วกออกมาเยอะมาก มันทรมานตรงที่รู้สึกพะอืดพะอมตลอดเวลา ระหว่างเยี่ยมก็เหมือนจะอ้วก พะอืดพะอม จามออกมา 2-3 ครั้ง หน้าแดงน้ำตาไหลออกมา ปากแห้งแตก ผิวแห้ง ผมร่วงเยอะ ค่าน้ำตาลในเลือดสวิง อยู่ที่ 60/80”

“ขาแขนอ่อนแรง ตาเหลืองขุ่น มีอาการมึนงง เวียนหัว พูดช้า ตอบโต้ได้ช้า ส่วนมากตะวันจะนอนอยู่เฉยๆ นั่งฟังเพื่อนเล่าเหตุการณ์ข้างนอกให้ฟัง วันนี้ดูเซื่องซึมกว่าเมื่อวาน ดูโทรมมาก แววตาอ่อนล้า คิดถึงทุกๆ คน”

เพื่อนได้เล่าให้ตะวันฟังว่าวันนี้ไปเยี่ยมเก็ทที่ศาลอาญา เก็ทฝากความเป็นห่วงถึงตะวันและแฟรงค์ ฝากขอบคุณเก็ทมากๆ นะ ตะวันบอก

ตะวันยืนยัน
จะไม่พิจารณาคดีลับหลังที่ศาลเยาวชน
วันที่ 11 มีนาคม 2567 ที่จะถึงนี้ ก่อนกลับ แม่ได้พาตะวันไปทำความสะอาดร่างกายในห้องน้ำ ก่อนจะลุกจากเตียงตะวันตัดสินใจอยู่ครู่หนึ่ง เนื่องจากตนไม่มีแรง แต่ก็ลุกขึ้นสู้อีกครั้ง แม่พยุงตะวันให้จับวอล์กเกอร์เดินไปเข้าห้องน้ำ จากนั้นพากลับออกมาที่เตียงนอน เพื่อนๆ ช่วยกันเช็ดตัวให้ตะวัน และหวีผมให้ จากนั้นแม่ก็หอมแก้มตะวันและกอดลา “เดี๋ยวพรุ่งนี้แม่มาหานะ อดทนเข้าไว้” ตะวันดูซึมๆ น้ำตาคลอเบ้า แม่รีบตัดสินใจเดินออกจากห้อง กลัวทำใจไม่ได้ เพราะสายตาลูกมันฟ้องว่าทรมานเหลือเกิน

เมื่อเดินออกมาจากห้องเยี่ยมมา แม่เล่าให้ฟังว่า “แม่ทำใจไม่ได้จริงๆ แม่ตกใจมาก ตัวตะวันมันบุ๋มลงไปเลย” แม่เห็นแต่ซี่โครงมันโผล่ออกมา สะโพกมันผายออกมามีเหลือแต่โครงกระดูก เหลือแต่หนังหุ้มกระดูกแล้ว

บันทึกเยี่ยมแฟรงค์ ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ วันที่ 5 มีนาคม 2567 แฟรงค์น้ำหนักเหลือ 37.9 เมื่อเช้าเจาะเลือดชุดใหญ่ไป ข้อพับบวมช้ำ หาเส้นเลือดไม่เจอ กว่าจะเจอต้องเจาะถึง 2 รอบ ปากแห้งแตก ผิวซีดเหลือง พะอืดพะอมคลื่นไส้นิดหน่อย เรื่องเบลอกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ขนาดนอนก็รู้สึกจะเป็นลม หายใจเหนื่อยหอบ เมื่อคืนนอนอยู่ดีๆ ก็สะดุ้ง รู้สึกใจหวิวๆ ฉี่แทบจะไม่ออก ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อมากๆ

ระหว่างที่เพื่อนๆ เล่าสถานการณ์ข้างนอกให้แฟรงค์ฟัง ระหว่างที่แฟรงค์นั่งฟังเพื่อนพูด แฟรงค์ก็หลับตาลง คิ้วขมวด ดมยาดมไปด้วย ดูเหนื่อยๆ กว่าเมื่อวาน ตอบโต้ช้ามาก เมื่อวานนี้สัญญาณชีพจรต่ำ และไม่ใส่เครื่องช่วยหายใจแล้ว วันนี้เพื่อนเล่าเรื่องเก็ทออกศาลอาญาให้ฟัง

แฟรงค์ฝากขอบคุณเก็ท ที่เก็ทส่งของใช้และของกินเข้ามาให้ในวันแรก แต่แฟรงค์เอาของให้กับคนอื่นจนหมด ฝากขอบคุณเก็ทอีกครั้งนะ “อยากกลับไปอุ้มหมาหมาที่บ้านแล้ว” จากนั้นเพื่อนให้แฟรงค์ไปพักผ่อน เพราะดูเหนื่อยมาก แฟรงค์โบกมือลา สายตาดูเศร้าเหลือเกิน……