เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 14 มี.ค. ที่ท่าอากาศยานนานาชาติ จ.ภูเก็ต นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ได้เดินทางมามอบนโยบาย โดยมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย รับฟัง โดยนายอนุทิน กล่าวตอนหนึ่งถึงปัญหากลุ่มอิทธิพลต่างชาติ ที่เข้ามารุกรานในพื้นที่ ว่า ในช่วงนี้ จ.ภูเก็ต ดังขึ้นมาเลย เข้าใจความเป็นคนไทย ตนก็เป็นหนึ่งในนั้น ถ้ามีต่างชาติมาข่มเหง เรายอมไม่ได้ ตนไปต่างประเทศ ต้องให้เกียรติเขาเวลาไปบ้านใคร ต้องเคารพเจ้าบ้าน และที่สำคัญเรามีกฎกติกาในการอยู่ร่วมกันและถ้าเราถูกกระทำ มันยอมไม่ได้ เขาใหญ่มาจากไหนหรือเราต้องคำนึงเสมอนี่คือบ้านเรา คุณมาอยู่ประเทศเรา คุณอย่ามาดูถูกเรา กฎเรามีอยู่ ให้เขาปฏิบัติตามกฎ ทุกท่านในที่นี้ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทำงานรับใช้ประชาชน จะไม่ยอมให้ใครมากดขี่ข่มเหงประชาชนคนไทยไม่ได้ อย่ามาถามว่า ที่ทำอยู่นี้แรงไปไหม เพราะตนมองว่ายังเบาไปด้วยซ้ำ ซึ่งเชื่อว่า ถ้าเรายึดกฎกติกา สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น
“มีรายงานมาตลอดว่าภูเก็ต มีมาเฟียต่างชาติ ผู้ใหญ่หลายท่าน ผมจะไม่เอ่ยว่าประเทศไหน แต่ผมรับปากเลยว่า ยุคผม ผมเอาจริง มันจะปล่อยให้มีสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ ผมขอให้ทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ขอให้ใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ ถ้าท่านทำเต็มที่ มันจะไม่มีใครมาข่มเหง รังแกคนไทยได้ เรื่องเดวิด ผมเป็นคนบอกเองว่าผิดเป็นผิด ให้ออกหนังสือไปยัง ตม.ต้องยึดวีซ่า ต้องดำเนินการตามกฎหมาย พฤติกรรมเขา มีมาก่อนที่เขาจะไปทำร้ายร่างกายหมอ นี่มันเป็นภัยต่อสังคม ทั้งข่มขู่ ทั้งมีอาวุธปืน ส่วนการทำงาน ผมประสานกับฝ่ายตำรวจ ฝ่ายความมั่นคง ช่วยกันทำงาน และถ้าเราใช้กฎหมาย ทำถูกต้อง ท่านไม่ต้องกลัว เพราะไม่มีใครใหญ่กว่ากฎหมายอยู่แล้ว” นายอนุทิน กล่าว
ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.และโฆษกกระทรวงมหาดไทย (มท.) กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงพื้นที่ของนายอนุทิน ที่ จ.ภูเก็ต ถือเป็นเรื่องปกติในการตรวจราชการ ไม่ได้มาจับผิดหรือว่ามาเพราะเห็นว่าที่นี่มีสถานการณ์มากกว่าที่อื่นเป็นพิเศษ ในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายภายในประเทศ การรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองเป็นเรื่องที่สำคัญ คนต่างชาติจะมาข่มเหงคุกคามคนไทยไม่ได้ นายอนุทินได้ฝากให้ดำเนินการตามทุกข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด และขอยืนยันว่าใน จ.ภูเก็ต ไม่มีใครใหญ่กว่ากฎหมาย การเป็นเจ้าพ่อต้องเป็นเจ้าพ่อด้วยความดี ไม่ใช่การออกมาข่มเหง ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย ระรานชาวบ้าน ประพฤติตนเป็นอันธพาล อันนี้เขาเรียกว่า “กุ๊ย” ที่เราจะต้องช่วยกันปราบกุ๊ย
น.ส.ไตรศุลี กล่าวต่อว่า ในเรื่องการจัดระเบียบสังคม ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ได้บูรณาการและมอบนโยบายกำชับให้กับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ดูแลพี่น้องประชาชนให้ได้รับความปลอดภัยในทุกที่ ทุกเวลา ทำให้ภูเก็ตเป็น Sandbox เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ปลอดภัย Friendly City เหตุทะเลาะวิวาทก็แค่มีปากเสียง แต่ไม่มีการใช้อาวุธรุนแรงทำร้ายกัน ส่วนด้านการตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดิน ขอให้กรมที่ดินได้ตรวจสอบสิทธิต่างๆ ตรงไหนเป็นสิทธิของประชาชน เราไม่ละเมิด แต่ถ้าพื้นที่ใดถูกรุกล้ำก็ต้องยึดคืนเพื่อให้เป็นที่สาธารณประโยชน์ พื้นที่ไหนมีนักเลงไปเก็บค่าผ่านเข้าหาด กีดกันไม่ให้ประชาชนเข้าไปใช้ประโยชน์ที่สาธารณะ ก็ต้องทำลายระบบนั้นเสีย
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในช่วงค่ำวันนี้ นายอนุทิน มีกำหนดลงพื้นที่ บางลา ไนท์ มาร์เก็ต ป่าตอง เพื่อตรวจติดตามการรักษาความสงบเรียบร้อยและการบังคับใช้กฎหมายเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความสุขให้กับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว.
