เมื่อวันที่ 15 มี.ค. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยผลการจับกุมตัว นายวัชรวิทย์ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ จ.173/2567 ลงวันที่ 21 ก.พ. 67 ข้อหา “พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปีไปเพื่อการอนาจารฯ, หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ มีลักษณะอันลามก” โดยจับกุมตัวได้ที่ ห้องพักครู รร. แห่งหนึ่งใน ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา

สืบเนื่องจาก เมื่อปี พ.ศ. 2565 น.ส.เอ (นามสมมุติ) ขณะนั้นอายุ 16 ปี เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ที่โรงเรียนหญิงล้วนย่านภาษีเจริญ ได้พบกับผู้ต้องหา ซึ่งในขณะนั้นอายุ 25 ปี ซึ่งเป็นครูฝึกสอนในโรงเรียนดังกล่าว ต่อมาผู้ต้องหาอาศัยความเป็นครู ตีสนิทและขอคบเป็นแฟน และขอให้เหยื่อถ่ายคลิปลับ โดยอ้างว่าเป็นเรื่องธรรมดาของคนเป็นแฟนกัน และเวลาก็ผ่านไป ครูหลบหนีการเกณฑ์ทหารด้วยการบินไปอยู่ประเทศเยอรมนี เป็นเวลากว่า 9 เดือน ด้วยระยะทางที่ไกลกัน และทั้งสองตกลงเลิกกันในที่สุด ผ่านไปจนกระทั่งปลายปี 2566 จู่ๆ แอปพลิเคชันอินสตาแกรมของ น.ส.เอ ก็มีคนติดตามเพิ่มขึ้นมาจำนวนมากอย่างไม่มีเหตุผล จนมีพลเมืองดีได้ทักไปบอกกับเธอว่า “คลิปลับ” ของเธอได้หลุดในโลกอินเทอร์เน็ต

และเมื่อพลเมืองดีดังกล่าวนำคลิปให้เธอเข้าไปดู ก็พบว่าเป็นคลิปลับระหว่างเธอกับครูหนุ่ม สมัยที่เธอเรียนอยู่ ม.4 และที่เลวร้ายมากคือการโพสต์ชื่ออินสตาแกรมของเธอไว้ในคลิปนั้นด้วย ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง เพื่อนของเธอเริ่มทักหาเธอในเรื่องนี้จนกลายเป็นคนซึมเศร้า เมื่อแม่เห็นความผิดปกติ จึงเริ่มสอบถามลูกสาวตัวเองจนทราบว่า หลังจากที่เธอเลิกกับครูรายนั้นแล้ว ครูยังคอยทักมาหาเด็กสาว พยายามโน้มน้าวให้ขอมีอะไรด้วย แต่เหยื่อไม่ยอมและคลิปลับดังกล่าวได้ถูกปล่อยออกมา แม่จึงไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.แสมดำ และต่อมาแม่ของเหยื่อ ขอความช่วยเหลือมายังตำรวจชุดสืบสวน บช.น.

ต่อมาตำรวจสืบสวน บช.น. แกะรอยจนสืบทราบว่าผู้ต้องหาได้เข้าบรรจุเป็นครูอัตราจ้างอยู่ในโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ จ.สงขลา จึงนำกำลังจับกุม และได้ตัวในห้องพักครูภายในโรงเรียน จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ พบคลิปการมีเพศสัมพันธ์กับเด็กนักเรียนไม่ต่ำกว่า 15 คลิป และมีภาพวาบหวิวที่นักเรียนส่งมาให้อีกไม่ต่ำกว่า 10 ราย และยังพบแชตสนทนาคุยสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเด็กนักเรียนอีกหลายราย จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง โดยระหว่างนี้อยู่ระหว่างขยายผลที่ บก.สส.บช.น.

ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยยอมรับว่า ทำการพรากเด็กไปมีเพศสัมพันธ์และถ่ายคลิปไว้จริง แต่ไม่ยอมรับว่าเป็นผู้ปล่อยคลิปดังกล่าว โดยให้การว่า ตนมีรสนิยมชอบหญิงสาวผมยาว สวมใส่แว่นตา โดยเฉพาะเด็กสาวที่สวมเครื่องแบบนักเรียนมัธยม หรือชุดนักศึกษา และสวมแว่นตา

ส่วนเรื่องคลิปวิดีโอ ผู้ต้องหายอมรับว่าถ่ายไว้จริง โดยมักจะนำโทรศัพท์มาบันทึกคลิปวิดีโอเป็นคลิปสั้นๆ จำนวนหลายคลิป เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกและเป็นความชอบส่วนตัว ส่วนเรื่องคลิปที่หลุด ตนรับว่าได้ถ่ายคลิปไว้จริง และบันทึกลงในโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กส่วนตัวเท่านั้น ไม่ได้บันทึกลงในฐานข้อมูลออนไลน์แต่อย่างใด น่าจะเป็นตอนที่ตนเองนำโทรศัพท์ไปซ่อมตอนอยู่ประเทศเยอรมนี ส่วนที่มีการแปะชื่ออินสตาแกรมของผู้เสียหายนั้น ผู้ต้องหาขอไม่ตอบ หลังจับกุมตัวได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.แสมดำ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย