สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ว่า บริษัท ไฟลต์อแวร์ ระบุว่า เที่ยวบิน 433 ของยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส เดินทางออกจากเมืองซานฟรานซิสโก เวลา 10.20 น. ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐ และลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติโรกวัลเลย์-เมดฟอร์ด ก่อนเวลา 12.00 น.

นางแอมเบอร์ จัดด์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนานาชาติโรกวัลเลย์-เมดฟอร์ด กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวลงจอดอย่างปลอดภัยโดยไม่มีเหตุการณ์ใด ๆ เกิดขึ้น และการตรวจสอบหลังการบินพบว่า แผงด้านนอกของเครื่องบินหายไป ซึ่งทางสนามบินได้หยุดดำเนินงานชั่วคราว เพื่อตรวจสอบรันเวย์และพื้นที่โดยรอบ แต่ไม่มีการพบเศษชิ้นส่วนข้างต้นแต่อย่างใด

ทั้งนี้ เที่ยวบินดังกล่าวใช้เครื่องบินโบอิ้ง 737-800 และมีผู้โดยสาร 139 คน รวมถึงลูกเรือ 6 คน

ด้านยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส ระบุว่า ทางสายการบินจะตรวจสอบเครื่องบินอย่างละเอียดถี่ถ้วน ตลอดจนซ่อมแซม และสอบสวนหาสาเหตุของความเสียหายที่เกิดขึ้น พร้อมกับให้รายละเอียดว่า แผงด้านนอกที่หายไปอยู่ใต้เครื่องบิน บริเวณที่ปีกเครื่องบินเชื่อมต่อกับลำตัวเครื่องบิน ใกล้กับล้อเครื่องบิน

NBC Bay Area

ขณะที่ สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐ (เอฟเอเอ) ระบุว่า จะดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์นี้เช่นกัน

อนึ่ง นายจอห์น แนนซ์ นักวิเคราะห์การบินจากเอบีซี นิวส์ กล่าวว่า ผู้โดยสารและลูกเรือทุกคนบนเครื่องบินลำนี้ ไม่น่าจะตกอยู่ในความเสี่ยง แต่ชิ้นส่วนที่หลุดออกมาจากเครื่องบิน อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อคนที่อยู่บนพื้นดินได้ ซึ่งมันเป็นความกังวลสำคัญสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง.

เครดิตภาพ : AFP