เมื่อเวลา 12.05 น. วันที่ 17 มี.ค. ที่โรงแรมอนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ว่าจะได้เห็นภาพนายกฯ ลงพื้นที่คู่กับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ เพราะเวลานายทักษิณ ลงพื้นที่ดูเหมือนประชาชนจะมาให้การต้อนรับ และปฏิเสธไม่ได้ว่านายทักษิณ เป็นเนื้อหนึ่งสำคัญของพรรคเพื่อไทย ว่า แน่นอน ท่านเป็นผู้ก่อตั้งพรรคเพื่อไทยมา และเป็นจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทยด้วย และเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีความเป็นป๊อปปูลาร์สูงมาก ตนพูดไปหนที่ 10 แล้ว 

“ตรงนี้ผมเชื่อว่าถ้าเราไม่ดึงท่านมาช่วยตรงนี้ ประเทศไทยก็จะไม่ได้ประโยชน์เต็มที่ แต่ส่วนที่นัดกันไปหรือเปล่า ยังไม่ได้นัด แต่ถามว่ามีโอกาสเป็นไปได้ไหม มีโอกาสอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นนายกฯ คนไหนก็ตามที อดีตนายกฯ คนไหนที่อยากจะลงพื้นที่ด้วยผมก็ยินดี” นายกฯ กล่าว 

เมื่อถามต่อว่า นายกรัฐมนตรีเคยพูดว่าเห็นอดีตนายกฯ ทักษิณลงพื้นที่แล้วประชาชนมีรอยยิ้ม ซึ่งทำให้สังคมเข้มแข็ง จึงอยากรู้ว่านายกฯ มีแนวคิดหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยตรงนี้ แต่อย่างที่บอกทุกๆ รอยยิ้มเป็นกำลังใจในการทำงาน และเป็นอะไรที่ตนอยากเห็นบนใบหน้าของพี่น้องประชาชนในทุกๆ ที่ ที่ไป ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่ทำให้เกิดรอยยิ้มก็ตามที 

เมื่อถามอีกว่าไม่สนคำพูดหรือสิ่งที่มองว่ามีนายกฯ ทับซ้อนใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่เคยคิดเลย และไม่เคยมีประเด็นตรงนี้ และเราก็ทราบดีอยู่ว่าอดีตนายกฯ หลายๆ ท่านมีความนิยมชมชอบสูง และตนเชื่ออย่างหนึ่งจะเป็นอดีตนายกฯ จากพรรคไหนก็ตามที ทุกท่านมีความหวังดีกับประเทศชาติ จะวิธีการคิดหรือนโยบายต่างๆ ก็มีความแตกต่างกันไป 

“วันนี้ผมเป็นนายกฯ อยู่ตรงนี้ ผมก็ต้องบริหารความคาดหวังของพี่น้องประชาชนทุกคน อดีตนายกรัฐมนตรีก็เป็นหนึ่งในประชาชนคนหนึ่งเหมือนกัน ผมเชื่อว่ามีความหวังดี แต่ในส่วนที่มีความเป็นไปได้ในข้อแนะนำหรือเปล่า เราก็ต้องมาดูในการบริหารจัดการทางราชการ ดูในเรื่องของงบประมาณและความเหมาะสมที่จะถูกจับออกมา ไม่ได้คิดอะไรครับ ยินดีรับฟังเสมอ” นายกฯ กล่าว

เมื่อถามอีกว่า นายกรัฐมนตรีคิดจะขจัดคำนี้หรือไม่ ที่ถูกมองว่ามีนายกรัฐมนตรี 2 คน นายเศรษฐา กล่าวว่า “ผมไม่มีความคิดที่จะขจัด จะมี 2 คน 3 คน 4 คน 5 คน ผมไม่ได้ใส่ใจตรงนี้ มันไม่ได้เป็นคอร์รัปชั่น หรือไร้ประสิทธิภาพในการทำงานที่มันต้องขจัด แต่เรื่องข้อวิจารณ์นี้ประเทศเราเป็นประเทศที่มีสิทธิเสรีภาพในการพูดได้ อยู่ภายใต้กฎหมาย ฉะนั้นตรงนี้ถ้าอยากจะพูดก็แสดงว่าเป็นข้อที่พี่น้องประชาชนให้ความสนใจ หน้าที่ของผมก็ต้องตอบ และหน้าที่ผมก็ต้องบริหารราชการแผ่นดินต่อไปเท่านั้นเอง ไม่ได้คิดอะไรเลยสักนิดเดียว ไม่ได้เป็นการบั่นทอนกำลังใจเลย และไม่ได้รำคาญที่จะตอบด้วย ถ้าถามอีกผมก็ตอบอีก ไม่ได้ว่าอะไรเลย”

เมื่อถามย้ำว่าแต่การวิจารณ์มองไปถึงอำนาจการตัดสินใจด้วย ตรงนี้ยังยืนยันหรือไม่ว่าอำนาจยังอยู่ที่ตัวนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา กล่าวด้วยน้ำเสียงแสดงความมั่นใจว่า “ยืนยัน นายเศรษฐา ทวีสิน คือนายกรัฐมนตรีและมีอำนาจในการตัดสินใจอย่างเต็มที่ภายใต้รัฐธรรมนูญของราชอาณาจักรไทย”