สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ว่า กระทรวงการต่างประเทศอัฟกานิสถานออกแถลงการณ์ เชิญเจ้าหน้าที่การทูตระดับสูงสุดของเอกอัครราชทูตประจำกรุงคาบูลเข้าพบ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อประท้วงการที่กองทัพปากีสถานปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนของประชาชน ในจังหวัดคอสต์ และจังหวัดปักติกา ที่อยู่ทางตะวันออกของอัฟกานิสถาน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย อยู่ที่จังหวัดปักติกา 6 ราย และจังหวัดคอสต์ 2 ราย


เนื้อหาในแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศอัฟกานิสถาน ระบุด้วยว่า เรียกร้องโดยตรงไปยังรัฐบาลปากีสถาน ว่าไม่ควรเปิดโอกาสให้ “บุคคลบางกลุ่ม” เข้ามาเพิ่มความยุ่งยากซับซ้อน ให้กับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี ซึ่งเป็นการสื่ออย่างมีนัยไปถึงกองทัพปากีสถาน ส่วนกลุ่มตาลีบันกล่าวด้วยว่า “เปิดฉากตอบโต้” ด้วยการโจมตีฐานประจำการทางทหารหลายแห่งของปากีสถาน ที่อยู่ตามแนวชายแดน


ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศปากีสถานออกแถลงการณ์ ว่า “ผู้มีอำนาจบางกลุ่มในอัฟกานิสถาน” ให้ความสนับสนุนกลุ่มเตห์ริค-อี-ตาลีบัน (ทีพีพี) และอาศัยการเคลื่อนไหวของทีพีพี ในการต่อต้านปากีสถาน และระบุว่า ปฏิบัติการโจมตีครั้งนี้ เป็นการตอบโต้เหตุกลุ่มติดอาวุธแทรกซึมข้ามพรมแดน จากอัฟกานิสถาน เข้ามาสังหารทหารปากีสถานอย่างน้อย 7 นาย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา


ด้านกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐขอให้ปากีสถาน “อดกลั้น” ต่อการเคลื่อนไหวทางทหารตามแนวชายแดน อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างปากีสถานกับอัฟกานิสถาน ทวีความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่กลุ่มตาลีบันกลับมาเรืองอำนาจ เมื่อเกือบ 3 ปีที่แล้ว โดยรัฐบาลอิสลามาบัดกล่าวหารัฐบาลคาบูล อยู่เบื้องหลังหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีข้ามพรมแดน ที่ยังคงเกิดขึ้น และให้ที่พักพิงกับสมาชิกกลุ่มหัวรุนแรง ซึ่งกลุ่มตาลีบันยืนกรานปฏิเสธ.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES