วันนี้ (14 เม.ย. 2567) คลิปสั้นที่ตัดทอนออกมาจากภาพยนตร์สารคดีเรื่องใหม่ของช่องสารคดีชื่อดัง “National Geographic” ได้กลายเป็นคลิปไวรัล และยังมีสถานีโทรทัศน์หลายแห่งของสหรัฐ นำไปเสนอเป็นข่าว 

คลิปดังกล่าว เป็นบันทึกภาพช่วงสั้น ๆ ในจังหวะที่ลูกนกเพนกวินจักรพรรดิหลายร้อยตัว กำลังยืนอยู่ริมหน้าผาที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็งและหิมะ มีความสูง 50 ฟุต (ราว 15 เมตร) จากนั้นก็ทยอยกระโดดลงสู่ผืนน้ำเบื้องล่าง

เบอร์ตี เกรกอรี ช่างภาพผู้เคยได้รับรางวัลช่างภาพยอดเยี่ยมจากอังกฤษ เป็นผู้ที่บันทึกภาพเหตุการณ์หาชมได้ยากดังกล่าวไว้ ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา จากบริเวณทวีปแอนตาร์กติก

ในช่วงแรก บรรดาลูกนกเพนกวินมีท่าทางคล้ายลังเล ไม่แน่ใจว่าควรกระโดดลงไปดีหรือไม่ บางตัวยังลื่นไถลอยู่ริมผาอย่างน่าหวาดเสียว 

แต่แล้วเมื่อมีลูกนกใจกล้าตัวหนึ่ง ทิ้งตัวลอยละลิ่วสู่น้ำทะเลเบื้องล่างได้สำเร็จ ในอีกไม่กี่อึดใจต่อมา บรรดาลูกนกที่ยืนอยู่ริมผาก็ทยอยทิ้งตัวตามลงไปสู่ผืนน้ำที่หนาวเหน็บ 

แม้จะดูน่าหวาดเสียวจากระยะไกล แต่เมื่อกล้องจับภาพระยะใกล้ ก็พบว่าพวกมันไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัว อีกทั้งยังสามารถลงสู่น้ำได้อย่างปลอดภัย จากนั้นก็ออกว่ายน้ำกันอย่างร่าเริง

เกรกอรี ให้สัมภาษณ์ไว้ว่าภาพที่เขาบันทึกไว้นั้น “ค่อนข้างเหลือเชื่อ” และเสริมว่า “ผมไม่รู้เลยว่าลูกนกพวกนี้กำลังจะกระโดดลงไป และไม่เพียงแต่พวกมันจะมีชีวิตรอด แต่ยังว่ายน้ำกันอย่างมีความสุขในทะเลอีกด้วย”

ตามธรรมชาติของนกเพนกวินจักรพรรดิ จะเริ่มออกเดินไปหามหาสมุทรตั้งแต่ยังเล็ก ด้วยอายุเพียง 6 เดือนเท่านั้น และจะเริ่มกระโดดลงจากก้อนน้ำแข็งที่มีความสูงไม่มากนัก เพื่อหัดว่ายน้ำตามสัญชาตญาณของมัน

แต่ก็จะมีบางตัวที่เริ่มหัดว่ายน้ำด้วยการกระโดดจากที่ที่สูงกว่านั้น โดยพวกมันจะมุ่งหน้าไปยังหน้าผาน้ำแข็งเพื่อกระโดดลงน้ำเป็นครั้งแรกในชีวิต ภาพการกระโดดท้ามรณะแบบนี้ ได้รับการบันทึกไว้ผ่านระบบดาวเทียมตั้งแต่ปี 2552 แต่ยังไม่มีใครรู้เหตุผลเบื้องหลังการกระทำของพวกมัน

เกรกอรี ประเมินว่า หน้าผาที่อยู่ในคลิปมีความสูงประมาณ 40-50 ฟุต (ราว 12-15 เมตร) เขาเคยเห็นนกเพนกวินจักรพรรดิกระโดดลงน้ำจากที่สูงราว 2-3 ฟุตมาแล้ว แต่ไม่เคยเห็นพวกมันกระโดดจากที่ที่สูงมากขนาดนี้

คลิปดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์สารคดี “Secrets of the Penguins” ของช่อง NatGeo ซึ่งมีแผนจะออกอากาศในวันคุ้มครองโลกปีหน้า ซึ่งก็คือวันที่ 22 เม.ย. 2568

ที่มา : usatoday.com

เครดิตภาพ : YouTube / National Geographic