สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ว่า นายยาเนซ เลนาร์ชิช กรรมาธิการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการจัดการภาวะวิกฤติของอียู กล่าวในพิธีเปิดการประชุมด้านมนุษยธรรม ว่า จำนวนเงินดังกล่าวมีความชัดเจนและเป็นรูปธรรม แต่มันสามารถเพิ่มมากกว่านี้ได้

เมื่อปีที่แล้ว ประเทศสมาชิกอียู และคณะผู้บริหารของกลุ่ม ให้คำมั่นว่าจะมอบเงินทั้งหมด 8,400 ล้านยูโร (ราว 330,000 ล้านบาท) ทว่าไม่มีฝ่ายไหนให้เหตุผลถึงจำนวนเงินที่ลดลงแต่อย่างใด

ทั้งนี้ สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า มีผู้คนจำนวน 300 ล้านคน ที่ต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากความขัดแย้ง และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ พร้อมกับประมาณการว่า ทั่วโลกมีช่องว่างเงินทุนเกือบ 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.8 ล้านล้านบาท)

“ผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉิน มีจำนวนมากกว่าที่เคยมีมา” นายโจเซป บอร์เรลล์ ผู้แทนระดับสูงด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงของอียู กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ในฉนวนกาซา “เลวร้ายอย่างยิ่ง” และอิสราเอลกำลังใช้ความอดอยากเป็นอาวุธในสงคราม

อนึ่ง การประชุมของอียู ระยะเวลา 2 วัน คาดว่าจะมุ่งเน้นไปที่การมอบความช่วยเหลือเพิ่มเติมในฉนวนกาซา ซึ่งถูกปิดล้อมตั้งแต่อิสราเอล เริ่มทำสงครามกับกลุ่มฮามาส เพื่อตอบโต้การโจมตีที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566

ด้านอิสราเอล ปฏิเสธการขัดขวางความช่วยเหลือในฉนวนกาซา พร้อมกับกล่าวโทษความล้มเหลวของหน่วยงานให้ความช่วยเหลือที่ดำเนินการล่าช้า และกล่าวหากลุ่มฮามาส ว่าเป็นฝ่ายกีดกันความช่วยเหลือ ซึ่งกลุ่มฮามาสปฏิเสธ และระบุว่าอิสราเอลใช้ความหิวโหยเป็นอาวุธในการโจมตีทางทหาร.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES