เมื่อวันที่ 19 มี.ค. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) โดยส่วนประชาสัมพันธ์ ได้เผยแพร่ผลการดำเนินงานในคดีพิเศษที่ 123/2566 หรือคดีละเมิดทางเพศเด็ก จำนวนเอกสาร 1,117 แผ่น ซึ่งดำเนินการโดยคณะพนักงานสอบสวน กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ และได้สรุปสำนวนพร้อมความเห็นสั่งฟ้องไปยังพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด สืบเนื่องจากคดีดังกล่าว ผู้ต้องหาได้มีพฤติการณ์ล่วงละเมิดทางเพศเด็กที่เป็นบุตรสาวของตนเอง และกระทำอย่างต่อเนื่องในราชอาณาจักรไทย ก่อนนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อัปโหลดลงดาร์กเว็ปแห่งหนึ่งและเผยแพร่ไปในประเทศเยอรมัน

กรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่า จุดเริ่มต้นของคดีเริ่มจากเมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ส่วนคดีละเมิดทางเพศเด็ก (Child Sexual Exploitation Crime Center : CSECC) นำโดย ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผอ.กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ พร้อมด้วยนายยศสันธ์ เรืองสรรงามศิริ รอง ผอ.กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ น.ส.กรรณิการ์ สุขสมนิล ผอ.ส่วนคดีละเมิดทางเพศเด็ก และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงานตำรวจสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน องค์การโอเปอร์เรชั่น อันเดอร์กราวน์ เรลโรด (OUR) และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าตรวจค้นและจับกุมนายโทนี่ (นามสมมติ) อายุ 34 ปี ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบของกลางเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บรรจุไฟล์ภาพลามกอนาจารเด็ก มากกว่า 22,600 ไฟล์ รวมทั้งมีภาพผู้เสียหายที่เป็นบุตรสาวของตนเองด้วย

จึงได้แจ้งข้อหาในความผิด ฐานกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม กระทำชำเราแก่ผู้สืบสันดาน ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น และส่งต่อซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่น นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ และเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามก บังคับ ขู่เข็ญ ใช้ ชักจูง ยุยงส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กแสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจาร ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทน หรือเพื่อประการใด ทั้งนี้ ดีเอสไอจะเร่งดำเนินการขยายผลจากพยานหลักฐานสำคัญที่น่าเชื่อว่าจะมีผู้เสียหายรายอื่น ๆ ที่เป็นเด็กไทยและต่างชาติอีกจำนวนมาก ซึ่งหากพบข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดต่อไป

กรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงขอแจ้งเตือนไปยังประชาชนว่า คดีละเมิดทางเพศเด็ก การกระทำชำเราแก่ผู้สืบสันดาน การครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก ฯลฯ โดยส่งต่อสื่อลามกอนาจารนั้นแก่ผู้อื่น มีโทษสถานหนักถึงจำคุกตลอดชีวิต หากประชาชนทราบเบาะแสหรือต้องสงสัยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคดีละเมิดทางเพศเด็ก สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่เว็บไซต์กรมสอบสวนคดีพิเศษ www.dsi.go.th หรือส่งเป็นหนังสือถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เลขที่ 128 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร หรือให้ข้อมูลผ่านสายด่วน กรมสอบสวนคดีพิเศษโทร.1202 (โทร.ฟรีทั่วประเทศ) โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะเก็บรักษาข้อมูลผู้แจ้งเบาะแสไว้เป็นความลับ.