สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ว่า สำนักข่าวแห่งชาติของเมียนมารายงาน อ้างเป็นคำกล่าวของ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา ว่าหากสถานการณ์ภายในประเทศอยู่ในระดับมีเสถียรภาพและสงบ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมจัดการเลือกตั้งให้ครอบคลุมพื้นที่ “มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้” และ “แม้อาจไม่เกิดขึ้นทั่วประเทศก็ตาม”


ทั้งนี้ สภากลาโหมและความมั่นคงแห่งรัฐของเมียนมา ขยายระยะเวลาบังคับใช้คำสั่งสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ “ออกไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน” นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันครบรอบ 3 ปีของการรัฐประหาร “เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่กลับคืนสู่สภาวะปกติ และเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับปฏิบัติการของภาครัฐ ในการปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย”


การดำเนินการดังกล่าว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 425 ของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2551 ซึ่งกองทัพเป็นผู้บัญญัติเอง อนึ่ง รัฐบาลทหารเมียนมายังคงเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ จากการสู้รบกับกองกำลังชาติพันธุ์หลายกลุ่ม โดยเฉพาะทางเหนือและทางตะวันออก และกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (พีดีเอฟ) ที่เป็นองค์กรการเมืองของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหาร


ขณะที่คณะกรรมการการเลือกตั้งเมียนมาปรับเปลี่ยน กฎระเบียบเกี่ยวกับพรรคการเมือง ในการเคลื่อนไหวทางการเมืองและการส่งผู้สมัครลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยลดจำนวนสมาชิกขั้นต่ำจาก 100,000 คน ลงเหลือ 50,000 คน และพรรคการเมืองนั้น ต้องดำเนินการตามรูปแบบและขั้นตอน หรือการหาเสียง ครอบคลุมอย่างน้อย 1 ใน 3 ของเขตเลือกตั้งที่ส่งผู้สมัคร ลดลงจากเดิมคือครึ่งหนึ่ง


ย้อนกลับไปเมื่อเดือน เม.ย. ปีที่แล้ว คณะกรรมการการเลือกตั้งเมียนมา ประกาศยุบพรรคการเมือง 40 พรรค หนึ่งในนั้นคือพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ของซูจี เนื่องจากจดทะเบียนไม่ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด


เดิมรัฐบาลทหารของ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย เคยยืนยันการจัดการเลือกตั้งทั่วไป “ในเดือน ส.ค. 2566” แต่ต่อมายอมรับว่า พื้นที่มากกว่าหนึ่งในสาม ยังไม่อยู่ในความควบคุมของกองทัพ “ได้อย่างเบ็ดเสร็จ” ด้วยเหตุนี้ การเลือกตั้งทั่วไปจึงยังไม่ควรเกิดขึ้น “ท่ามกลางความเร่งรีบ”.

เครดิตภาพ : AFP