เมื่อวันที่ 29 มี.ค. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมโครงการอบรมเพิ่มประสิทธิภาพผู้นำในการเสริมสร้างบทบาทของหมู่บ้านสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วันที่ 2 ณ ห้องประชุมแกรนด์บอลรูม โรงแรมเทพนครและอัลวาเรซ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมี นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายพรรณรบ เตชะมงคลาภิวัฒน์ รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายประสพโชค อยู่สำราญ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัดในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และนายอำเภอ ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จาก 20 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา บึงกาฬ บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานี และอุบลราชธานี เข้าร่วมการประชุม

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ฐานข้อมูลสำคัญที่เป็นข้อมูลในการทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ คือ ระบบฐานข้อมูล ThaiQM ที่เป็นสารตั้งต้นที่ดีอยู่แล้ว ทุกท่านจึงต้องบริหารจัดการข้อมูลที่มีให้ดี ไม่ให้เป็นเพียงข้อมูลสารสนเทศในระบบเท่านั้น เราต้องนำเอาข้อมูลมาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการทำงานและส่งผลต่อพี่น้องประชาชน โดยน้อมนำพระราชดำรัสของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระองค์ทรงบันทึกเป็น Check List ในการดำเนินการในพื้นที่ ทำให้ไม่เกิดการตกหล่น เช่นเดียวกันกับเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เพราะเราบูรณาการข้อมูลเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ นายอำเภอ มีข้าราชการผู้รับผิดชอบประจำตำบลอยู่แล้ว ดังนั้นทุกท่านต้องให้ความสำคัญ ในการติดตามดำเนินการทำให้ข้อมูลระบบ ThaiQM อัปเดตอยู่ตลอดเวลา ในส่วนของการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งในเดือนมีนาคม 2567 เรามี “Flagship” ที่จะนำผู้ป่วยจิตเภทสีแดง ส่งเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูที่โรงพยาบาลทั้งหมด คู่ขนานกับการที่นายอำเภอสำรวจรวบรวมรายชื่อผู้ป่วยจิตเภททุกคนส่งให้ฝ่ายสาธารณสุขในพื้นที่ รวมทั้งจัดให้มีโต๊ะข่าวยาเสพติด เพื่อกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญกับผู้เสพยาเสพติดและทำสงครามกับยาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยอย่างเอาจริงเอาจัง

“ในหลายพื้นที่มีปัญหายาเสพติดรุนแรงมากส่งผลต่อชีวิตและทรัพย์สินผู้เสพและคนในครอบครัว รวมถึงคนในชุมชน ดังนั้น เรื่องสำคัญที่สุดของพวกเราฝ่ายปกครอง ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ จะต้องเสาะแสวงหาให้เจอทั้งผู้ค้าและผู้เสพยาเสพติด ต้องช่วยกันทำให้ปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยกันอัปเดตข้อมูลผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดตลอดเวลา รวมถึงหากพบเจอเบาะแสในพื้นที่ต้องเข้าตรวจค้น จับกุมทันที ตลอดจนตั้งด่านจุดตรวจจุดสกัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อหาทางกดดันไม่ให้คนในชุมชนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ในส่วนการบำบัดฟื้นฟูสภาพทางสังคม ขอให้ใช้กลไกที่มีอยู่แล้วในแต่ละพื้นที่ ดำเนินการนำผู้ป่วยยาเสพติดเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูได้เลยทันทีโดยไม่ต้องรอ ซึ่งทุกกระบวนการที่กล่าวมานายอำเภอสามารถขอรับการสนับสนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ สิ่งสำคัญของการแก้ไขปัญหายาเสพติด คือ ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องขยันขันแข็งในการที่จะตรวจค้นสถานบริการ สถานประกอบที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง ทำด้วย “Passion” เอาจริงเอาจัง ช่วยกันทำให้ลูกหลานไม่เข้าถึงยาเสพติดได้โดยง่าย ซึ่งทีมจังหวัด อำเภอ ตำบล บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน จะเข้มแข็งได้ ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอต้องแสดงถึงความเข้มแข็ง ทำให้ปลัดอำเภอผู้รับผิดชอบประจำตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มีความเข้มแข็ง รวมทั้งสร้างให้มีระบบคุ้ม มีคณะกรรมการคุ้ม ที่เปรียบเสมือน 25 ตาสับปะรดในหมู่บ้าน ซึ่งทั้งหมดจะบูรณาการไปสู่การเป็นหมู่บ้านยั่งยืน จึงขอให้ทุกท่านใช้ภาวะผู้นำอย่างเต็มที่” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงต้น

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อไปอีกว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ช่วยกันประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้พี่น้องประชาชนลงทะเบียน “ไทยดี” (ThaiD) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการยืนยันตัวตนผ่านระบบดิจิทัล การติดต่อขอรับบริการภาครัฐ การตรวจสอบข้อมูลทะเบียน เป็นต้น นอกจากนี้ ท่านต้องช่วยกันบูรณาการงานทุกงาน อาทิ เรื่องสิ่งแวดล้อม การจัดการขยะ การจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน ซึ่งจะส่งผลประโยชน์ต่อการปลูกผักสวนครัว การท่องเที่ยวที่เมืองสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย นำตัวอย่างที่สำเร็จไปขับเคลื่อนขยายผล การรังวัดที่ดินที่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง หรือ น.ส.ล. จะมีการปักป้ายที่สาธารณประโยชน์ชัดเจน สามารถตรวจสอบแนวเขตได้เมื่อมีการบุกรุก หรือลดข้อพิพาทเรื่องแนวเขตที่ดินสาธารณประโยชน์ได้ตามวัตถุประสงค์ นอกจากนี้ ยังสามารถปรับปรุง พัฒนา และบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน รวมถึงการบริหารจัดการที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ทั้งการรังวัดออกโฉนดเป็นโฉนดดาวเทียม RTK เราทุกคนต้องช่วยกันรักษาทรัพย์สินและสมบัติของแผ่นดิน เพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

“เรื่อง 7 วันอันตรายในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ขอให้ทุกท่านช่วยกันสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมให้มีการสื่อสารสังคม และการฝึกอบรมให้แก่เด็กและเยาวชน เริ่มตั้งแต่สถานศึกษา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ตลอดจนหอกระจายข่าว ร่วมกับภาคีเครือข่าย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดต้องใช้ภาวะผู้นำที่มีความเข้มแข็ง ทำให้เกิดการรณรงค์สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยอย่างคึกคัก อาทิ ทำป้ายประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้ชัดเจนเป็นรูปธรรม ทำให้มีจุดพักรถพักคนตามจุดต่าง ๆ เป็นต้น เรื่องปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง ขอให้น้อมนำแนวพระราชดำริการบริหารจัดการน้ำตามทฤษฎีใหม่ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทำให้หน้าแล้งมีน้ำเหลืออยู่เพียงพอสำหรับอุปโภคบริโภค และเมื่อหน้าฝนต้องมีแหล่งรองรับน้ำ แก้มลิง หลุมขนมครก บ่อน้ำตื้น ที่สามารถกักเก็บน้ำไว้ในยามที่มีน้ำ ไม่ให้น้ำไหลออกจากพื้นที่หมด ซึ่งเป็นการต่อยอดทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา หรือ อารยเกษตร ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หากผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ นำข้อมูลไปประยุกต์ใช้ร่วมกับโครงการพัฒนาตามผังภูมิสังคมเพื่อการบริหารจัดการน้ำหมู่บ้าน/ชุมชน แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน (Geo-social Map) ของกรมโยธาธิการและผังเมือง เราก็จะมีทางลัดและมีเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาน้ำได้ ขอให้จัดพิมพ์ผัง Geo-social Map เพื่อให้นายอำเภอนำไปใช้ต่อยอด พร้อมวางแผนลงพื้นที่ขับเคลื่อนการพัฒนาแบบมีส่วนร่วมตามโครงการหมู่บ้านยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วมตามภูมิสังคม ตลอดจนช่วยกันต่อยอดโครงการพระราชดำริการพัฒนาพื้นที่บึงสีไฟ โดยนำแนวทางที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแนวทางในการต่อยอดทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา หรืออารยเกษตร ทำให้นอกจากจะใช้พื้นที่ให้เป็นประโยชน์แล้ว ยังมีความสวยงาม เป็นพื้นที่สำหรับการออกกำลังกาย การศึกษาเรียนรู้ และเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของพี่น้องประชาชน” นายสุทธิพงษ์ กล่าว

นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุนแม่ของแผ่นดิน หรือการแก้ไขปัญหายาเสพติดเชิงบวก ทุกครัวเรือนไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิก เพียงแต่การจัดตั้งนี้จะเป็นสารตั้งต้นไปสู่การเป็นหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) เป็นการดำเนินการเพื่อก่อตั้งกลุ่มคนที่จะมาต่อต้านกับยาเสพติด ทำให้มีจิตอาสาในการไปพบปะพูดคุย รณรงค์ ดูแลครอบครัว โดยใช้กลไกของระบบคุ้มบ้าน ยกระดับให้เกิดเป็นระบบ มีกรรมการกองทุนแม่ของแผ่นดิน มีการประชุมพูดคุยและมีการจัดกิจกรรมร่วมกัน เพื่อรณรงค์สร้างแรงจูงใจไม่ให้คนในชุมชนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ในเรื่องการรณรงค์สวมใส่ผ้าไทย ที่ทุกจังหวัดมีการดำเนินการในระดับดีมาก หลายจังหวัดมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมผ้าไทย มีช่องทางการตลาด สนองแนวพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ขับเคลื่อนโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” สิ่งสำคัญที่สุด คือ การสื่อสารสังคมต้องมีความชัดเจน เราต้องนำเสนอในสิ่งที่กระทรวงมหาดไทยทำ แสดงถึงความเข้มแข็งขององค์กร และสถาบันของมหาดไทย เพราะรางวัลความสำเร็จจะเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นเครื่องหมายว่าสิ่งที่เราทำ ริเริ่มโดยจังหวัดและคนมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอเป็นนายกรัฐมนตรีของพื้นที่ ทำหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน ทุกเรื่องจึงเป็นงานของเรา การสื่อสารสังคมบนพื้นฐานความเป็นจริงของงานคือสิ่งสำคัญ

“ขอขอบคุณทุกท่านที่กรุณามาใช้ชีวิตร่วมกัน ในระยะเวลา 2 วัน 1 คืน มีความสุขที่ได้เห็นผู้ว่าราชการจังหวัดและประธานแม่บ้านมหาดไทย และทีมจังหวัด ร่วมกันแสดงออกเสริมสร้างความรักความสามัคคีของทีมจังหวัด บรรยากาศแบบนี้จะเกิดขึ้นได้ หากเรา “สืบสาน รักษา และต่อยอด” ตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้กระจายสู่จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ตลอดจนขับเคลื่อนรณรงค์ส่งเสริม ชักจูงให้ประชาชนมาร่วมเป็นสมาชิกแม่บ้านมหาดไทย แม่บ้านประจำจังหวัด ส่งเสริมทำให้เกิดเป็นระบบทางการเพิ่มมากยิ่งขึ้น เป็นทีมงานจิตอาสา เพื่อต่อยอดไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ดีมากยิ่งขึ้น ตามตัวชี้วัดของหมู่บ้านยั่งยืน และการแก้ไขปัญหาครัวเรือนแบบพุ่งเป้า ThaiQM รวมทั้งการดำเนินโครงการตามแนวพระราชดำริต่าง ๆ และตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย เช่น การเพาะกล้าพันธุ์ไม้ การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ธนาคารขยะ การจัดซื้อหนังสือสารานุกรมสำหรับเด็ก การขับเคลื่อนติดตามนักเรียนทุนการศึกษาพระราชทาน ม.ท.ศ. และที่สำคัญ คือ ดำเนินการโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ อย่างต่อเนื่อง พร้อมประชาสัมพันธ์เผยแพร่พระเกียรติคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีต่อพื้นที่ของเรา ทั้งนี้ ขอให้ทุกท่านทำหน้าที่เป็นพ่อเมืองที่ดูแลพี่น้องประชาชน “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้พี่น้องประชาชนมีความสุขอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้าย