เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 เม.ย. 67 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม  เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 152

ภายหลังนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เสนอญัตติและอภิปรายเสร็จสิ้นลง

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า ญัตติดังกล่าวแม้จะระบุว่ารัฐบาลทำทุกอย่างถอยหลัง แต่รัฐบาลมีความคืบหน้า โปร่งใสหลายเรื่อง สิ่งที่ทำอยู่เป็นบวก เป็นแสงสว่าง สิ่งที่รัฐบาลทำมา 6 เดือน มั่นใจมีความซื่อสัตย์ โปร่งใส ยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง เรื่องหนี้นอกระบบ หนี้เกษตรกร มีการแก้ปัญหาพักหนี้ให้ ปัญหาพลังงานได้ดูแลราคาน้ำมันเบนซิน ดีเซล ค่าไฟฟ้า ไม่เพิกเฉยนิ่งนอนใจ เรื่องยาเสพติด ตั้งคณะทำงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สาธารณสุขและกระบวนการยุติธรรมแก้ปัญหา ไตรมาส 4 ปีที่แล้ว จับยาบ้าได้มากกว่าปีก่อนทั้งปี ขณะที่ราคายางพุ่งเกือบ 100 บาทต่อกิโลกรัม ราคาข้าวพุ่งสูง พืชผลอื่นๆ ก็ไม่มีการมาประท้วง มีการเปิดตลาดในต่างประเทศ ทำงานอย่างบูรณาการให้ราคาพืชผลดีขึ้น ส่วนการเดินทางไปต่างประเทศบ่อย เพราะต้องไปให้ประเทศไทยมีตัวตนในเวทีโลก สส. 314 คน ทุกคนยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง

“ผมพร้อมรับฟังความเห็น สส. ประชาชน แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลา รัฐบาลเพิ่งบริหารประเทศมาแค่ 7 เดือน ถ้ามีข้อเสนอแนะดีๆ เรายินดีรับฟัง แต่ถ้าเป็นข้อกล่าวหา กล่าวโทษก็ขอหลักฐานมา หลังเลือกตั้งเราจะก้าวไปสู่ประชาธิปไตยที่ดีขึ้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว.