เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน (กบฉ.) ครั้งที่ 2/2567 โดยมีนายฉัตรชัย บางชวด รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม

ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ที่ประชุม กบฉ.ได้พิจารณาความเหมาะสมการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งยังมีความสำคัญต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยจากการรายงานสถานการณ์ พบว่าสถานการณ์ในพื้นที่ยังมีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น และยังปรากฏภาพข่าวการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปัจจุบันอยู่ในห้วงเดือนรอมฎอน ซึ่งพบการก่อเหตุพร้อมกันหลายจุด โดยเป็นการสร้างความหวาดกลัวให้แก่ประชาชน ที่ประชุม กบฉ.จึงมีมติขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ยกเว้น อ.ยี่งอ อ.สุไหงโก-ลก อ.แว้ง อ.สุคิริน, จ.ปัตตานี ยกเว้น อ.ยะหริ่ง อ.ปะนาเระ อ.มายอ อ.ไม้แก่น อ.ทุ่งยางแดง อ.กะพ้อ อ.แม่ลาน และ จ.ยะลา ยกเว้น อ.เบตง อ.รามัน อ.กาบัง และ อ.กรงปินัง ออกไปอีก 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย.-19 ก.ค. 2567 โดยยังไม่มีการปรับลดพื้นที่เพิ่ม เพราะหลายพื้นที่ยังมีการก่อเหตุความรุนแรง ทั้งนี้ จะมีการเสนอมติดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 9 เม.ย.นี้

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ฝ่ายความมั่นคงได้รายงานว่าช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน จะมีการก่อเหตุมากขึ้น เพราะมีการบิดเบือนว่าถ้าก่อเหตุช่วงนี้ จะได้บุญที่สูงมาก ตนจึงขอให้ฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครองร่วมกันปฏิบัติหน้าที่เฝ้าระวังอย่างเคร่งครัดในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน และในวันฮารีรายอ ระหว่างวันที่ 12-13 เม.ย.นี้ รวมถึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณาศึกษากฎหมายด้านความมั่นคงอื่นๆ ที่จะมาใช้แทนกฎหมายพิเศษในพื้นที่ด้วย