จากกรณี นายปัญญา คงแสนคำ หรือ “ลุงเปี๊ยก” ถูกตำรวจสภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ดำเนินคดีอาญาโดยมิชอบด้วยกฎหมายในคดีฆาตกรรม นางบัวผัน ตันสุ หรือ “ป้ากบ” โดยตำรวจแจ้งว่า ลุงเปี๊ยก ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนฆ่าป้ากบ เพราะความมึนเมา แต่ภายหลังพบหลักฐานกล้องวงจรปิดว่ามีกลุ่มวัยรุ่น 2 คน โดย 2 คน ในกลุ่มเป็นลูกตำรวจ ทำให้มีการนำลุงเปี๊ยกไปทรมานเพื่อให้รับสารภาพ ภายหลัง เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ “ดีเอสไอ” ได้รับเรื่องดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ โดยอัยการสูงสุดมีคำสั่งแต่งตั้ง นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวนมาเป็นหัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวนคดีเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน หัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน ตามมาตรา 31 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ร่วมประชุมร่วมกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ใช้เวลาในการประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนจะเปิดเผยว่า วันนี้ (10 เม.ย.) เป็นการประชุมเพื่อลงมติ เพื่อสรุปว่า จะแจ้งข้อกล่าวหากับตำรวจคนใดบ้าง โดยที่ประชุมมีมติเเจ้งข้อหาแบ่งเป็นระดับผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ รองผู้กำกับสืบสวน สารวัตรสืบสวนและรองสารวัตรสืบสวน ซึ่งอันนี้คือกลุ่มผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้อง และอีกกลุ่มคือ กลุ่มที่กระทำความผิดโดยตรงในห้องสอบสวน มีตำรวจชั้นประทวน 3 นาย รวมทั้งหมด 9 นาย ซึ่งทางดีเอสไอจะออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา 157 และ พ.ร.บ.อุ้มหาย โดยนัดหมาย วันที่ 7-9 พ.ค. 67 นี้ และเมื่อถูกแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ทางผู้ต้องหามีสิทธิ์นำพยานหลักฐานมาแสดงชี้แจงได้เพื่อหักล้างข้อกล่าวหาได้ จากนั้นมีการพิจารณาเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ก่อนจะสรุปสำนวนส่งอัยการว่าเห็นควรจะสั่งฟ้องใครบ้าง.